กรณีเกิดระเบิด ที่สมานเมตตาแมนชั่น อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ปี 2553 และมีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมดำเนินคดี น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก อายุ 57 ปี ชาวเชียงใหม่ ที่ใกล้ชิดผู้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2590 มาตรา 4 , 38 ,74 ฐานมีวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ระเบิดแรงต่ำดินเทาและยูเรีย น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมบรรจุไว้ในถังดับเพลิงและถังน้ำยาแอร์ และมีปืนเล็กกล (AK47) ขนาด 7.62 มม. RUSSIAN เลขประจำปืน 601098 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจำนวน 129 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ยื่นฟ้อง น.ส.อัมพร ต่อศาลอาญา ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อปี 2559 แต่ น.ส.อัมพร ยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากถูกดำเนินคดีระเบิดอีกสำนวน ซึ่งเกิดเหตุบริเวณ ซ.ราษฎร์อุทิศ 25-27 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี เขตพื้นที่ศาลจังหวัดมีนบุรี
วันนี้ ศาลจังหวัดมีนบุรี นัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.อัมพร ร่วมกันทำประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ ซื้อ มี ใช้ สั่งหรือนำเข้า วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ , ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดฯ มาตรา 38 , 55 ,78 จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มี.ค.2557 เกิดเหตุระเบิด ที่บริเวณลานดินกว้าง ติด ถ.ราษฎร์อุทิศ ระหว่าง ซ.ราษฎร์อุทิศ 25-27 มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน อยู่ในสภาพถูกระเบิดพังเสียหาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าก่อนเหตุนายกษิ ดิฐธนรัชต์หรือนายอ่าว อิสระส์ เป็นบุคคลที่มาติดต่อเช่าบ้านที่เกิดเหตุให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ และจากการสอบสวนทราบว่า น.ส.อัมพร มีความใกล้ชิดกับนายกษิ ดิฐธนรัชต์
ทั้งนี้ น.ส. อัมพร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 5 และทหาร จับกุมตัวตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 948/2557 คดีร่วมทำให้เกิดระเบิดได้เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2559 ภายในบ้านพักที่ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่แล้วนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเดือน ก.ย.2559 โดยตลอดเวลาดังกล่าวจนถึงปัจจุบันไม่ได้รับการประกันตัว ขณะที่ น.ส. อัมพร ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลเบิกตัว น.ส.อัมพร จากเรือนจำพิเศษมีนบุรีมาฟังคำตัดสิน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีพนักงานสอบสวน เบิกความว่าพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยทำแผนผังความเชื่อมโยงของนายกษิ ผู้ที่กระทำผิดร่วมซึ่งเชื่อมโยงกับจำเลย แต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่ยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด เช่นเดียวกับพยานแวดล้อมที่มีก็เพียงบอกว่า มีผู้หญิงมาพบกับนายกษิ ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งโจทก์ระบุว่าเป็นที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวจำเลยได้พยานกลับไม่ชี้ตัวยืนยันว่าเป็นจำเลยโดยระบุว่าผู้หญิงที่เห็นนั้นมีอายุมากกว่าจำเลย พยานโจทก์จึงไม่มีความแน่นอน ส่วนหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจำเลยไปที่บ้านพักเลขที่ 49เนื่องจากลายนิ้วมือเป็นคนละคนกับของจำเลย ซึ่งโจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน พยานแวดล้อมและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ที่หนักแน่น จึงพิพากษายกฟ้อง
ภายหลังศาลยกฟ้องแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมตัว น.ส.อัมพร กลับเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรีทันที โดยระหว่างรอขึ้นรถเรือนจำ น.ส.อัมพร ยิ้มและยกมือไหว้พร้อมกล่าวว่า สื่อควรจะให้ความเป็นธรรมในคดีด้วยนะคะ และดิฉันก็ก็มีความมั่นใจในกระบวนการตุลาการ
ด้านน.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ก็จะได้รับการปล่อยตัว หลังจากถูกคุมขังมานาน ส่วนคดีระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น ที่จ.นนทบุรี ศาลอาญา ก็ยกฟ้องโดยอัยการยื่นอุทธรณ์คดีแต่เมื่อศาลไม่ได้สั่งขังระหว่างอุทธรณ์ น.ส. อัมพร ก็จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกันจากคำพิพากษาที่ยกฟ้อง
CR:ชาย Criminal NewsCh7 , คมชัดลึก