ผอ.พศไม่ยอมย้ายเข้าสำนักนายกฯ/นายกฯก่าวข้ามสองพี่น้องชินวัตร/โยนปปง.ฟ้องคดีฟอกเงินกลุ่มกฤษฎาธานนท์

07 กันยายน 2560, 08:16น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.



+++หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบโอนย้าย พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ไปเป็น ผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนจะแต่งตั้งให้นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา มาดำรงตำแหน่งแทน ล่าสุดมีหนังสือจากสำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ที่ พศ.0001/780 ส่งถึงนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การรับโอนและการให้ไปช่วยราชการ โดยชื่อผู้ลงนามในหนังสือดังกล่าว คือพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ โดยในหนังสือมีความเห็นแย้งคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวเป็นข้อๆ  เช่นการรับโอนและการให้ไปช่วยราชการข้างต้นนั้น มิได้เป็นไปโดยความรู้เห็นหรือความสมัครใจของเจ้าตัว การอนุมัติให้ยืมตัวไปช่วยราชการ มิใช่กฎหมาย จึงไม่ทำให้พ้นจากตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง อีกทั้งในความเป็นจริงยังปฏิบัติราชการในตำแหน่งได้ โดยมิต้องนั่งประจำที่สำนักงานพระพุทธศาสนา ขณะที่นายออมสิน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงหนังสือดังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว และไม่ทราบมาจากที่ใด แต่ทราบว่ามีข่าวออกมาในวันนี้ ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ส่วนมติครม.ที่ให้โอนย้ายมานั้น จะมีผลต่อเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงมา ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อพ.ต.ท.พงศ์พร เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้



+++ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายมานัส ถึงภารกิจหลักที่ต้องจะสนองงานคณะสงฆ์ ต่อจาก อดีต ผอ.พศ. ส่วนการตรวจสอบคดีต่างๆ นั้น ก็ให้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป ย้ำให้ตรวจสอบจากภายในหน่วยงานไปสู่การตรวจสอบภายนอก อย่าใช้วิธีที่เริ่มจากการตรวจสอบจากภายนอกมาสู่ภายใน หากขยายผล สืบพบผู้กระทำผิดที่เป็นข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในวัดและนอกวัด ให้ไปดูตามระดับความผิดและดำเนินการตามกฎหมาย  นายวิษณุกล่าวว่า ยังมีภารกิจสำคัญอื่นๆ อีกทั้งยังอยู่ในช่วงเตรียมงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างพศ.กับกรมการศาสนา จึงอยากให้นายมานัส ดำรงตำแหน่ง รักษาการอธิบดีกรมการศาสนา ควบคู่กับผอ.พศ. ไปก่อนจนกว่าจะเสร็จสิ้นพระราชพิธี แล้วจึงจะพิจารณาแต่งตั้งคนใหม่



++++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบข้อถามผู้สื่อข่าว กรณีสถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยผลสำรวจในรอบ 15 ปี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับความนิยมจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 แสดงว่าประเทศไทยยังก้าวไม่พ้นชื่อของนายทักษิณใช่หรือไม่ ว่า “อะไรนะ ฉันไม่ได้ยินเลย หูฉันเป็นอะไรนี่ ไหนคนถามมาถามใกล้ๆ ซิ”  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็เป็นเรื่องของพวกคุณ คุณไปถามใครกันมา สำหรับผมก้าวพ้นไปนานแล้ว สื่อพวกคุณหลายคนก็ยังก้าวไม่พ้นอยู่ เสนอกันทุกวัน ก็เสนอกันไปซิ ก้าวไม่พ้นสักที ผมลืมไปแล้ว เป็นเรื่องของกฎหมายก็ไปว่ากันมา เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมายที่จะต้องดำเนินการ การก้าวไม่พ้นคือการสร้างการรับรู้ ที่มันทำให้ไม่พ้น เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะก้าวให้พ้น คือลืมๆ ไปแล้วให้กฎหมายดำเนินการตามกระบวนการ แต่ถ้ามัวคิดถึงแต่ตรงนั้น ไม่ต้องทำอะไรประเทศไม่ต้องเดินหน้าไปไหน



+++เมื่อถามว่า แล้ววันนี้รัฐบาลก้าวข้ามชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "มีแต่พวกคุณนั่นแหละที่ไม่ก้าวข้าม ถามกันอยู่ทุกวัน  ผมก้าวข้ามตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่แล้ว ก็ให้กลไกของกระบวนการยุติธรรมดำเนินการไป นั่นคือวิธีการก้าวข้ามของผม ไม่ใช่การปล่อยปละละเลย ก็เพราะที่ผ่านมามันไม่ทำกัน เพราะมันไม่ก้าวข้าม ปลุกประชาชนออกมาสู้กันอยู่นั่นแหละ  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “ผมอยากรู้ว่าทำไมสื่อไม่เคยถามว่าเหนื่อยหรือไม่ ไปแล้วจะกลับมาหรือเปล่า ฉันไปเที่ยวไหนมาหรือเปล่า แล้วไม่ต้องมาถามตอนนี้เพราะมันเลยเวลามาแล้ว กลับมาถึงก็โดนสื่อบี้ กลับไปเรื่องเดิม แล้วก็มาถามว่าผมก้าวข้ามไหม พวกคุณนั่นแหละที่ไม่ก้าวข้ามเอง”



+++นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานคำให้สัมภาษณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะรวมพรรคกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ว่า “การรวมพรรคไม่มี ท่านประยุทธ์จะมีพรรคหรือ เรื่องดังกล่าวผมถูกสอบถามแบบนี้ว่าหลังการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมทำงานหรือสนับสนุนใครได้บ้าง ผมก็บอกไปว่าพรรคประชาธิปัตย์เราจะเป็นตัวแทนชุดความคิด ชุดนโยบาย ว่าเราจะแก้ปัญหานำพาประเทศไปในทิศทางไหน ประชาชนจะตัดสินว่าจะสนับสนุนเรามากแค่ไหน ถ้าสนับสนุนเรามากเราก็มีโอกาสไปทำงานผลักดันตรงนี้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าสนับสนุนเราไม่พอ แล้วมีการพยายามจัดตั้งรัฐบาล ผมจะยึดเอาเนื้อหาสาระที่เสนอกับประชาชนเป็นหลัก  นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงผลสำรวจของสถาบันพระปกเกล้าที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมต่ำเพียง 36.8 เปอร์เซ็นต์ ว่า ความเป็นจริงองค์กรทางการเมืองทั้งหมดอยู่ในบรรยากาศที่คนไม่เชื่อมั่นก็เข้าใจได้ ซึ่งประเด็นที่ตนย้ำมาตลอดว่าพรรคการเมืองต้องหาทางรื้อฟื้นความเชื่อมั่นและศรัทธาจากประชาชนมาให้ได้ ส่วนหนึ่งที่จะชัดเจนขึ้นเมื่อสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ และต้องใช้เวลาในช่วงนี้คิดถึงการเปลี่ยนแปลงการทำงาน ซึ่งเคยทำให้ประชาชนไม่พอใจ



+++ยิ่งลักษณ์หลบหนี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ระบุถึงการเตรียมแจ้งความบุคคลที่พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนี มีข้อมูลอย่างไรบ้าง ว่า ยังไม่มีข้อมูลอะไร และยังไม่ได้เจอ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เมื่อถามว่ากรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่หลบหนีเหมือนกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็ทำไงได้ เราก็ดูแลเต็มที่แล้ว ก็เหมือนคนทั่วไปที่ได้หลบหนีไป



+++ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและโฆษกคสช. กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่าได้ส่งหลักฐานการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้กองทัพป็นผู้พิจารณาเพื่อเป็นผู้ร้องทุกข์ว่า ยังไม่ได้รับแจ้งกรณีดังกล่าว และพล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังไม่ได้ประสานงานมาแต่อย่างใด แหล่งข่าวจากคสช.ระบุว่า ตามข้อกฎหมายแล้ว กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตั้งข้อกล่าวหาได้ทันที ไม่จำเป็นต้องให้กองทัพเป็นผู้ร้องทุกข์และผู้เสียหายก็คือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ระดับนโยบายไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ขณะนี้ข้อมูลการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมาไม่ถึงฝ่ายกฎหมายของ คสช.



 +++ คณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการอนุมัติเงินกู้ให้กับกลุ่มกฤษดาธานนท์ ภายหลังคดีมีข้อถกเถียงในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงินกับ นายพานทองแท้ ชินวัตร และพวก คณะพนักงานสอบสวนมีมติให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดีฟอกเงิน เนื่องจากคดีนี้ ปปง. เป็นผู้เริ่มต้นคดีโดยมีหนังสือร้องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับวงเงิน 10 ล้านบาท และ 26 ล้านบาท หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดี และมีหมายเรียกให้นายพานทองแท้กับพวกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงิน เพื่อเปิดโอกาสให้นายพานทองแท้กับพวก นำหลักฐานเข้ามาแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นคณะพนักงานสอบสวนจะประชุมเพื่อลงมติว่าหลักฐานที่ผู้ต้องหามานำมาแสดงมีน้ำหนักเพียงพอที่รับฟังแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่ หากไม่มีน้ำหนักก็จะสั่งฟ้องคดี ส่งสำนวนให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษพิจารณาในชั้นต่อไป



+++นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายในเปิดเผยว่า เพื่อให้ราคาจำหน่ายปลีกก๊าซ LPG สะท้อนต้นทุน ในขณะเดียวกันต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากเกินไป จึงมีมติให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา โดยราคาก๊าซ LPG ที่ปรับเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 1.43 บาท ให้กองทุนน้ำมันช่วยรับภาระกิโลกรัมละ 81สตางค์ และให้ปรับราคาจำหน่ายปลีกก๊าซ LPG ปรับเพิ่มขึ้น เพียงกิโลกรัมละ 67 สตางค์ซึ่งเมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่มจากเดิมกิโลกรัมละ 20.49 บาท เป็นกิโลกรัมละ 21.15 บาท ก๊าซ LPG ขนาดบรรจุถัง 15 กิโลกรัม ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีราคาเพิ่มขึ้นถังละ 10 บาท จากเดิมถังละ 343 บาทปรับเป็นถังละ 353 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่6 กันยายน 2560 กรมการค้าภายในได้วิเคราะห์ผลกระทบจากการปรับราคาจำหน่ายปลีกก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ67 สตางค์ ในครั้งนี้พบว่า ส่งผลให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มขึ้นจาน/ชามละ 3 สตางค์เท่านั้น ดังนั้นผู้ประกอบการอาหารปรุงสำเร็จ จึงไม่มีเหตุผลที่จะปรับราคาอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มสูงขึ้น หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสูงขึ้นเกินกว่าราคาแนะนำ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569



+++นางเอกสาว "ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต" หลังคลอดเจ้าตัวน้อยฝาแฝด ตั้งชื่อ น้องธันเดอร์-ด.ช.สายฟ้า และน้องสตรอม-ด.ช.พายุ โดยคลอดห่างกัน 1 นาที สุขภาพดีทั้งคุณแม่และคุณลูก ซึ่งสาวชมพู่เตรียมแถลงข่าวพร้อมให้ได้ชมความน่ารักเจ้าตัวน้อยในวันที่ 9 ก.ย.นี้ 

ข่าวทั้งหมด

X