เฮอร์ริเคน เออร์มา พัดถล่มเกาะในทะเลแคริบเบียน/เกาหลีใต้ติดต่อ ระบบป้องกันขีปนาวุธเพิ่ม/ซูจี กล่อมรัสเซีย-จีนช่วยปัญหาโรฮิงญา

07 กันยายน 2560, 05:53น.


*ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.*



+++ความเสียหายจากพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาพัดถล่มหมู่เกาะในแถบทะเลแคริบเบียน บีบีซีรายงานอ้างนายเจอร์ราด โคลลอมบ์ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของฝรั่งเศสว่า การพัดถล่มของพายุเออร์มาในแถบทะเลแคริบเบียนเมื่อเช้ามืดวันนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายท้องที่ อาคารบ้านเรือนเสียหายในหมู่เกาะหลายแห่งในแถบทะเลแคริบเบียน อาคารที่แข็งแรงที่สุด 4 แห่งบนเกาะแซ็ง-มาร์แต็ง อาณาเขตของฝรั่งเศสในทะเลแคริบเบียนได้รับความเสียหาย แต่ยังไม่มีรายงานเรื่องการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินมากกว่านั้น โดยพายุยังมีความแรงในระดับ 5 หรือระดับรุนแรงที่สุด คือ 300 กม.ต่อชั่วโมงขณะพัดถล่มหมู่เกาะในแถบทะเลแคริบเบียน



+++ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯว่า รัฐบาลท้องถิ่น ในหลายเทศมณฑลของรัฐฟลอริดา ทางภาคใต้ของสหรัฐฯเริ่มปรับตัวเองเข้าสู่การแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน รวมถึงการวางแผนอพยพชาวบ้าน การปิดโรงเรียนและการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จากนั้นพายุจะเคลื่อนตัวขึ้นไปทางตะวันตก มุ่งหน้ายังเขตเซาท์ฟลอริดา หรือพื้นที่อื่นๆในแถบใกล้เคียง พื้นที่ในเส้นทางพายุเออร์มา รวมถึงอ่าวรัฐฟลอริดาและหมู่เกาะทางตอนใต้สุดของรัฐฟลอริดา พายุอาจจะขึ้นฝั่งระหว่างปลายสัปดาห์ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกัน หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างการเตรียมแผนรับมือกับพายุลูกนี้เพื่อป้องกันอันตรายแต่เนิ่นๆหลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์พัดถล่มรัฐเท็กซัสทางภาคตะวันออกของประเทศ หลายท้องที่ถูกน้ำท่วมหนัก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (เอบีซีนิวส์)



+++เอเอฟพี รายงานอ้างนายอิทซึโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นว่า ญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์เกี่ยวกับความรุนแรงของระเบิดนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือทดสอบเมื่อวันอาทิตย์ว่ามีอานุภาพในการทำลายล้างเทียบเท่าอานุภาพของระเบิดทีเอ็นทีราว 160 กิโลตัน หรือมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับระเบิดปรมาณูที่สหรัฐฯถล่มเมืองฮิโรชิมาเมื่อปี 2488 ครั้งนั้นระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯมีอานุภาพทำลายล้างเท่ากับอนุภาพของระเบิดทีเอ็นทีราว 15 กิโลตัน นับเป็นการปรับเพิ่มตัวเลขประมาณครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่นหลังประเมินว่ามีอานุภาพทำลายล้างเท่ากับอานุภาพของระเบิดทีเอ็นที 70 กิโลตันและ 120 กิโลตัน ตามลำดับ การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ใหม่นี้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มตัวเลขความแรงของแรงสั่นสะเทือนทางภาคพื้นดินขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์(ซีทีบีทีโอ) ระบุว่าระเบิดนิวเคลียร์ลูกนี้ของเกาหลีเหนือ อาจจะรุนแรงมากกว่าลูกอื่นๆเท่าที่เกาหลีเหนือเคยทดสอบมา



+++ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นได้โทรศัพท์คุยกับพล.อ.จิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯเมื่อเช้าวันนี้ รัฐมนตรีทั้งสองเห็นตรงกันว่าควรจะเพิ่มมาตรการกดดันเกาหลีเหนือให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน นายโอโนเดระ มองเรื่องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่พัฒนาไปสู่อีกขั้นหนึ่ง ซึ่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯก็เห็นด้วย



+++ด้านนางนิกกิ ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติบอกกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าสหรัฐฯจะนำร่างมติให้ที่ประชุมพิจารณาในอีก 2-3 วันข้างหน้าเพื่อลงโทษเกาหลีเหนือเพิ่มเติม แต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯระบุว่าการลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติมไม่เกิดประโยชน์



+++ยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานอ้างแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ว่า การติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธพิกัดสูงหรือทาดของสหรัฐฯเพิ่มเติมอีก 4 ฐานในเมืองซองจู ห่างจากกรุงโซลไปทางทิศใต้ราว 300 กม.จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันนี้ ระบุว่ากองกำลังสหรัฐฯประจำเกาหลีใต้จะประจำอยู่ในฐานปล่อยจรวดดังกล่าว ก่อนหน้านี้สหรัฐฯได้ติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธเสร็จไปแล้ว 2 ฐานพร้อมระบบเรดาร์ประสิทธิภาพสูงในอีกจุดหนึ่งที่เคยใช้เป็นสนามกอล์ฟในหมู่บ้านโซซอง-รี เมืองซองจู



+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ปิดที่ 49.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ 54.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เฮอร์ริเคน “เออร์มา” หนึ่งในพายุแถบแอตแลนติกซึ่งมีกำลังรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี พัดผ่านหมู่เกาะต่างๆ ทางตอนเหนือของแคริบเบียนเมื่อวันพุธ (6 ก.ค.) โดยคาดว่าจะสร้างความหายนะเนื่องจากทั้งลมและคลื่นที่รุนแรงตลอดจนฝนตกกระหน่ำหนัก ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(6ก.ย.) ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 54.33 จุด ปิดที่ 21,807.64 จุด



ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(6ก.ย.) ปรับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน นักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หลังทำเนียบขาวและสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงขยายเส้นตายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,339.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++การเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดีของอินเดีย ดูเหมือนจะถูกบดบังความสำคัญจากปัญหาวิกฤติด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมา หลังชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายหมื่นคนข้ามชายแดนเข้าไปในบังกลาเทศ หลบหนีเหตุรุนแรงในเมียนมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว แถลงการณ์ร่วมในวันนี้ นายโมดีและนางอองซาน ซูจี รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ให้คำมั่นว่าจะร่วมกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่พวกเขาระบุว่าเป็นปัญหาก่อการร้าย

นางซูจี ขอบคุณรัฐบาลอินเดียที่ยืนหยัดเคียงข้างเมียนมาในเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ของเมียนมา ระบุว่า ปัญหารุนแรงในรัฐยะไข่เป็นผลจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวโรฮิงญาในขณะนี้และเสริมมาตรการด้านความมั่นคง ในเวลาต่อมาถือว่าเป็นมาตรการจำเป็นเพื่อคุ้มครองประชาชนชาวเมียนมาผู้บริสุทธิ์ให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน



+++เมียนมา กำลังเจรจากับจีนและรัสเซียเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะขัดขวางการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรื่องความรุนแรงที่บีบบังคับให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 150,000 คน ต้องอพยพไปบังกลาเทศในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ต่อง ตุน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติพม่า กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงเนปีดอว่า พม่ากำลังพึ่งพาจีนและรัสเซีย ซึ่งทั้งสองต่างเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่จะสกัดกั้นมติเกี่ยวกับวิกฤตินี้ นักข่าวของรอยเตอร์ในเมืองคอกซ์บาซาร์ บังกลาเทศ พบเรือที่เต็มไปด้วยชาวโรฮิงญาที่อ่อนล้ามาถึงพื้นที่ใกล้หมู่บ้านชามลาปูร์ ใกล้ชายแดน  ตามการประเมินล่าสุดของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติที่ปฏิบัติงานในบังกลาเทศระบุว่า ผู้ที่อพยพเข้ามาใหม่ในระยะเวลา 12 วัน มีถึง 146,000 คน จากจำนวนดังกล่าว ทำให้ชาวโรฮิงญาที่แสวงหาการลี้ภัยในบังกลาเทศตั้งแต่เดือนต.ค. รวมทั้งหมด 233,000 คน



+++ศาลยุติธรรมแห่งยุโรปว่า ศาลสั่งยกคำร้องคัดค้านของฮังการีและสโลวาเกีย สมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ทางตะวันออกของยุโรป หลังสมาชิกอียูทำข้อตกลงแบ่งสรรผู้อพยพหลังเกิดปัญหาวิกฤติมีผู้อพยพไหลบ่าจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเข้าสู่ยุโรปจำนวนมากเมื่อปี 2558 ระบุว่ามาตรการนี้มุ่งจะช่วยให้กรีซและอิตาลีสามารถจัดการกับปัญหาการไหลทะลักของผู้อพยพในช่วงเกิดปัญหาวิกฤติเมื่อปี 2558 และถือว่ามีความเหมาะสมแล้ว กลุ่มอียูจัดทำโครงการนี้เพื่อช่วยลดแรงกดดันให้กับประเทศสมาชิกอียูที่เป็นเสมือนเมืองหน้าด่าน เช่นกรีซและอิตาลี ซึ่งเป็นด่านแห่งแรกที่ผู้อพยพที่เดินทางทางเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จะต้องผ่านเพื่อเข้าไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป โดยในภาพรวม ประเทศสมาชิกของกลุ่มอียู อนุมัติคำร้องลี้ภัยจากผู้อพยพแล้ว 28,000 คน ซึ่งนับว่าต่ำกว่าตัวเลขการแบ่งเฉลี่ยรับผู้อพยพในระยะแรกราว 1 แสน 60,000 คน ตามที่สมาชิกอียูลงนามไว้เมื่อเดือนกันยายน 2558

ข่าวทั้งหมด

X