ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า การเยือนเมียนมาของนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดีของอินเดียในวันนี้ดูเหมือนจะถูกบดบังความสำคัญจากปัญหาวิกฤติด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมา หลังชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายหมื่นคนข้ามชายแดนเข้าไปในบังกลาเทศ หลบหนีเหตุรุนแรงในเมียนมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว แถลงการณ์ร่วมในวันนี้ นายโมดีและนางอองซาน ซูจี รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ให้คำมั่นว่าจะร่วมกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่พวกเขาระบุว่าเป็นปัญหาก่อการร้าย
นางซูจี ขอบคุณรัฐบาลอินเดียที่ยืนหยัดเคียงข้างเมียนมาในเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ของเมียนมา ระบุว่า ปัญหารุนแรงในรัฐยะไข่เป็นผลจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวโรฮิงญาในขณะนี้และเสริมมาตรการด้านความมั่นคง ในเวลาต่อมาถือว่าเป็นมาตรการจำเป็นเพื่อคุ้มครองประชาชนชาวเมียนมาผู้บริสุทธิ์ให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ด้านสื่อของทางการเมียนมา ระบุว่า เหตุรุนแรงรอบหลังสุดเกิดขึ้นหลังกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาบุกโจมตีตำรวจชายแดนหลายจุดในท้องที่ห่างไกลของรัฐยะไข่เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม มีตำรวจเสียชีวิต 12 ศพ
ด้านนายโมดีสนับสนุนความเห็นของนางซูจี ระบุว่าเหตุรุนแรงในเมียนมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนเกิดจากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ระบุว่า ทั้งสองประเทศเห็นตรงกันคือรู้สึกหวั่นวิตกเรื่องปัญหาก่อการร้ายในรัฐยะไข่ โดยเฉพาะการลอบโจมตีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เป็นเหตุให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบหรือถูกฆ่าตายด้วย
ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า มีชาวโรฮิงญา 123,600 คน ข้ามชายแดนเข้าไปยังบังกลาเทศเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว
ทีมต่างประเทศ
CR:twitter.com/cnni/status/905382739167334400 ,CNN