ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.
+++หลังพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เตรียมแจ้งความบุคคลที่พาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลอะไร และยังไม่ได้เจอ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ส่วนการหลบหนีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่เหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ทำไงได้ เราก็ดูแลเต็มที่แล้ว ก็เหมือนคนทั่วไปที่ได้หลบหนีไป ระยะเวลา2 สัปดาห์แล้ว ยังไม่รู้ว่าใครพาหนี แต่กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานข้อมูลไปแล้ว 190 กว่าประเทศ และไม่หนักใจในการดำเนินการ ถึงเวลามันก็ออกมาเอง และคนที่พาหนีก็ต้องรับผิดชอบ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึง กรณีการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตามโรดแม็พหรือไม่ว่า เป็นไปตามโรดแม็พ ส่วนการดำเนินคดีกับทัวร์ศูนย์เหรียญที่ระบุว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องผลประโยชน์ ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย จากนี้ต้องมีการอุทธรณ์คดีตามกระบวนการ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามขั้นตอน คดีจะหลุดไม่ได้ต้องยื่นอุทธรณ์
+++เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ(คป.ตร.) นำโดยนางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) เพื่อสนับสนุนแนวทางการปฎิรูปตำรวจด้วยการกระจายอำนาจให้เป็นตำรวจจังหวัด โดยนางสมศรี กล่าวว่า อยากให้กระจายอำนาจตำรวจ ตามแนวคิดของนายเสรี สุวรรณภานนท์ กรรมการ ฯ ที่ให้ปรับเปลี่ยนตำรวจไปสังกัดในระดับจังหวัด เพื่อให้การทำงานของตำรวจมีประสิทธิภาพ แยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ให้ขึ้นอยู่กับอัยการซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการทำงานของตำรวจที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็วขึ้น และยังมองว่าจะช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย ถือเป็นการปฏิรูปตำรวจเพื่อประชาชนไม่ใช่เพื่อตำรวจ แม้จะมีการคัดค้านจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้การทำงานของตำรวจยากขึ้น ซึ่งทางเครือข่ายมองว่า สวนทางกับแนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ตำรวจเข้าถึงประชาชน โดยกระจายอำนาจสู่พื้นที่
+++ด้านพล.อ.บุญสร้าง กล่าวยอมรับว่าประเด็นปัญหานี้ค่อนข้างยากที่สุด โดยในที่ประชุมกรรมาการฯ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ในการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานมักจะมีความที่ผูกพันและรักในระบบการทำงานเดิม ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรยึดติด แต่การปฏิรูปจะต้องทำด้วยเหตุผลเป็นหลัก อย่าใช้อารมณ์ ไม่เช่นนั้นการแก้ไขปัญหาจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งที่ประชุมกรรมาธิการฯ จะหารือกันในเรื่องนี้ต่อ
+++ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงยุทธศาสตร์ชาติว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยุทธศาสตร์ชาติเริ่มดังขึ้น หากรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลที่นำโดยคนนอก พูดตรงๆ ก็คือนำโดยคนของ คสช.การบริหารงานของรัฐบาลคงไม่ขัดแย้งกับยุทธศาสตร์ชาติ จะมีปัญหาก็ตรงที่ยุทธศาสตร์ชาติ ล้าหลังไม่สอดคล้องกับการพัฒนาของโลกและของประเทศไทยเอง ประเทศไทยก็จะล้าหลังต่อไปอย่างยั่งยืน แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลคงไม่เป็นอันทำอะไร นอกจากคอยดูว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ถูกลงโทษเนื่องจากไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ ครั้นจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท ก็จะเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ บ้านเมืองก็จะล้าหลังต่อไปแบบไม่มีอนาคต เรื่องของยุทธศาตร์ชาตินี้เป็นระบบที่แปลกประหลาดทั้งองค์ประกอบของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่มีรองประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานวุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติมาเป็นรองประธานคณะกรรมการอยู่ด้วย และหน่วยงานของรัฐที่จะได้รับผลจากยุทธศาสตร์และแผนแม่บทยังครอบคลุมถึงฝ่ายนิติบัญญัติ ตุลาการและองค์กรอิสระทั้งหลายด้วย เรียกว่าเป็นการจัดความสัมพันธ์ที่สับสนระหว่างอำนาจอธิปไตยทั้งสาม คือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ รวมทั้งองค์กรอิสระซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอำนาจอธิปไตยที่เท่าไร
+++อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนสิงหาคม 2560 ปรับสูงขึ้นร้อยละ 0.32 ต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม 2560 ที่สูงขึ้นร้อยละ 0.17 จากสินค้ากลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลก จากพายุเฮอริเคนฮาวีย์ถล่มชายฝั่งเท็กซัสและหลุยเซียน่า ของสหรัฐฯ ทำให้กำลังการผลิตลดลงร้อยละ10 ของทั้งหมด ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 8 เดือนขยายตัวเล็กน้อย ร้อยละ 0.56 ระดับราคาสินค้าและบริการ ในเดือนสิงหาคม 2560 สูงขึ้นร้อยละ 0.11 จากเดือนกรกฎาคม 2560 เป็นผลจากหมวดสินค้าอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ( ค่าเช่าบ้าน เครื่องนุ่งห่ม ค่าของใช้ส่วนบุคคล น้ำมันเชื้อเพลิง สุรา ) รวมทั้งอาหารบริโภค-ในบ้าน และนอกบ้านที่ปรับสูงขึ้น คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2560 กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ระหว่าง ร้อยละ 0.7 - 1.7 ต่อปี โดยมีสมมติฐานหลักคือ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อรายได้จากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนทั้งทางด้านปริมาณและราคา ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น กระทบราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ มาตรการภาครัฐสนับสนุนกำลังซื้อสำหรับครัวเรือนรายได้น้อยและการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2017ความผันผวนของงค่าเงินบาทส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการแข่งขันของภาคการส่งออก และต้นทุนการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ
+++กรุณา บัวคำศรี ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวช่องพีพีทีวีเอชดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Karuna Buakamsri ภายหลังการเข้าเยี่ยม นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 13 ปี 4 เดือน ในคดีบริษัท ไร่ส้ม ยักยอกเงินค่าโฆษณาของ บมจ.อสมท. 138 ล้านบาท อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า วันนี้เอาหนังสือไปเยี่ยมและคุยกับพี่ยุทธ ใต้ฟ้าเดียวกัน ในเรือนจำไม่ค่อยเห็นท้องฟ้า อยู่ในนี้พี่ไม่รู้ทิศเลยนะ ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน พี่ต้องถามผู้คุมว่า ถนนงามวงศ์วานอยู่ตรงไหน จากที่ที่พี่นอนอยู่ พี่จะมองออกไปข้างนอกเรือนนอน เห็นท้องฟ้านิดเดียว แต่พี่รู้ว่า ถ้าถนนงามวงศ์วานอยู่ตรงนี้ ขอบฟ้าตรงนั้นคือบ้านของพี่ เวลาพี่อยู่สนามบาสพื้นปูน พี่ชอบมองไปบนฟ้า ถามผู้คุมว่าถนนวิภาวดีอยู่ทิศไหน มองขึ้นไปแล้วก็กะเอาว่า โรงพยาบาลจุฬาอยู่ตรงไหน ฟ้าในนี้มันแคบมากกว่าข้างนอกมาก แต่นั่นแหละมันก็คือฟ้าเดียวกัน พี่อาจจะไม่มีอิสระทางกาย แต่ไม่ใช่ใจและจินตนาการของพี่ ต้องอยู่ให้ได้ พี่ยังคิดเหมือนเดิม ยิ่งนานวันยิ่งชัดว่า อยู่แบบนี้อยู่ได้ อยู่แบบนี้มีความหวัง ไม่ต้องหลบซ่อนตัว สรยุทธ สุทัศนะจินดา 5 กันยายน 2560 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ (https://www.facebook.com/kbuakamsri)
+++องค์กรการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอิสลาม (ไอเอสอีเอสซีโอ) ทำการเรียกร้องในวันนี้ ให้คณะกรรมการรางวัลโนเบลของนอร์เวย์ทำการริบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่นางออง ซาน ซูจีได้รับในปี 1991 โดยบอกว่า นางซูจีได้สูญเสียสิทธิในการรับรางวัลดังกล่าว จากสิ่งที่เมียนมาได้กระทำต่อชาวโรฮิงญาภายใต้การนำของนางซูจี การกระทำที่น่ารังเกียจของเมียนมาถือเป็นสิ่งที่ขัดแย้งต่อคุณค่าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ไอเอสอีเอสซีโอ เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าแทรกแซงโดยทันทีเพื่อให้เมียนมาหยุดยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ ขณะที่นายเรเซป เตย์ยิป เออร์โดวาน ประธานาธิบดีตุรกี ได้สนทนาทางโทรศัพท์ต่อนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความรุนแรงในรัฐยะไข่ที่ทำให้ชาวโรฮิงญากว่า 100,000 คนต้องอพยพไปยังบังกลาเทศ ผู้นำทั้งสองยังหารือกันเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขวิกฤตการณ์ และการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในภูมิภาคดังกล่าว