ผู้ตรวจการแผ่นดิน อยู่ต่อ/กังวลคนซื้อบ้านบนที่ดินอัลไน์กว่า600คน/เร่งดูแลเด็ก15 ถูก40คนข่มขืน

06 กันยายน 2560, 08:10น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.



+++ศาลรัฐธรรมนูญตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาคำร้องของประธาน สนช. ส่งความเห็นของสมาชิก สนช.จำนวน 36 คน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 263 ว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 56 ที่ระบุว่าให้ประธานและผู้ตรวจการแผ่นดินที่ดำรงตำแหน่งก่อนวันที่ พ.ร.ป.ฉบับนี้ใช้บังคับอยู่จนครบวาระตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินพ.ศ.2552 นั้นมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินมาตรา 56 ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.กล่าวถึงการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า หลังจากนี้ กรธ.ก็ยังยืนยันว่าเรายังคงเขียนคุณสมบัติขององค์กรอิสระในกฎหมายลูกที่เหลืออยู่ตามหลักการเดิม ส่วน สนช.จะไปแปรเปลี่ยนภายหลังก็ไม่ว่าอะไรเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสามารถทำได้โดยเฉพาะคุณสมบัติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ถ้าถามว่าหากให้องค์กรอิสระอื่น ๆ อยู่ต่อโดยไม่สนใจคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญได้หรือไม่  เมื่อศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าได้เราก็ต้องยอม และหากสนช.จะแก้ให้พวกเขาอยู่ต่อ ทาง กรธ.ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปโต้แย้ง หาก กรธ.จะแย้งก็ต้องแย้งตั้งแต่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย



++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเดียวกันว่า  เป็นเรื่องที่ตนเห็นด้วยเพราะร่างกฎหมายกกต.ที่เสนอไปก็กำหนดในลักษณะนี้ เช่นเดียวกันเนื่องจากเห็นว่ากรรมการมาโดยชอบด้วยกฎหมายจึงควรได้รับการคุ้มครองให้ทำงานต่อไป ส่วนตัวมองว่า คำวินิจฉัยครั้งนี้จะมีผลต่อการกำหนดเนื้อหาในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ         



+++ที่ดินอัลไฟน์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ดินอัลไพน์ว่า ได้หารือกับนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่องของการอุทธรณ์ให้เป็นไปตามที่กฤษฎีกาให้คำแนะนำไว้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา เจ้าของที่ดินนั้น เป็นเรื่องของสำนักพุทธฯ ดำเนินการเรื่องร่างพ.ร.บ. และส่งเรื่องมาที่ ครม. ส่งไปยังสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สิ่งที่เป็นกังวลของสังคมคือผู้ไปซื้ออสังหาริมทรัพย์จากบริษัทอัลไพน์ ที่ได้รับผลกระทบกว่า 600 ราย  กระทรวงมหาดไทยจึงต้องดำเนินการอุทธรณ์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งนี้ หากผลออกมาเป็นด้านลบสำหรับผู้ที่ได้รับความเสียหาย ก็สามารถดำเนินการร้องต่อศาลปกครองได้ สุดท้ายก็จะมาจบที่การฟ้องร้องกันโดยรัฐจะต้องไปไล่เบี้ยกับผู้ที่กระทำความผิด หากจะให้มีการออก พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอย่างเป็นไปโดยชอบก็จะเกิดประเด็นทางสังคมอีกว่า ทำไมไม่ทำตามกฎหมาย คนผิดก็ไม่ต้องรับผิดชอบ



+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติตามที่นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เสนอขอรับโอนนายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมศาสนา สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมให้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ด้านนายมานัสกล่าวว่า เมื่อเป็นมติของ ครม. ก็ไม่ขัดข้อง การจะต้องไปดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ. ยอมรับว่ามีหนักใจอยู่บ้าง และหลังมีการโปรดเกล้าฯ แล้ว สิ่งแรกที่ตนจะต้องดำเนินการคือ เข้ากราบถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) และกรรมการมหาเถรสมาคม (มส. สำหรับประวัตินายมานัส ทารัตน์ใจ เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2501 อายุ 59 ปี โดยจบการศึกษาทางธรรม เปรียญธรรม (ป.ธ.) 6 ประโยค จบปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และปริญญาโท M.A.Sociology University of Poona ประเทศอินเดีย และในวันที่ 30 ธันวาคม 2559 ถึงปัจจุบัน ตำแหน่งอธิบดี ศน. โดยนายมานัสจะเกษียณอายุราชการในปี 2561



+++กรณีมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ตได้นำ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นแม่ และลูกสาวคือเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ สภ.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อจับกุมตัวกลุ่มคนเพิ่มเติมนอกเหนือจากผู้ต้องหา 3 คนใน อ.ตะกั่วทุ่ง ตามที่อัยการจังหวัดพังงาสั่งฟ้องในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ 14 ปี (ขณะเกิดเหตุ) ไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจาก น.ส.เอ ถูกคนในหมู่บ้านกว่า 40 คนรุมข่มขืนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 จนถึงปลายเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ต่อมานายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง รวมทั้ง 2 แม่-ลูกได้ย้ายออกจากหมู่บ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย



+++นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.)พังงา จ.พังงา กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลสภาพจิตใจของ น.ส.บีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่ปี 2559 แต่ได้มาแจ้งความดำเนินคดีเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งขณะนั้นทีมแพทย์โดยโรงพยาบาล (รพ.) ตะกั่วทุ่งและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หล่อยูง ได้ร่วมกันตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษา พบว่าขณะนั้นสภาพจิตใจไม่ดี มีภาวะซึมเศร้าระดับปานกลาง ได้ให้ยาและให้กลับบ้าน โดยนัดตรวจอาการอย่างต่อเนื่อง ทีมแพทย์จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่ามีภาวะหวาดวิตกหวาดระแวง ยิ่งต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมจึงมีความกังวลมากขึ้นและหวาดผวาไปหมด  โดยได้มีการประสานและย้ายน้องมาอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวที่อำเภอตะกั่วป่า เพื่อให้ย้ายจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่น้องหวาดกลัว โดยการรักษาต้องโอนให้ รพ.ตะกั่วป่าดูแล พบว่าสภาพจิตใจน้องดีขึ้นมาก มีภาวะซึมเศร้าลดลง เรียกว่าอยู่ในระดับน้อยลง ซึ่งก็ต้องให้การดูแลต่อไป



+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่นายสมพร พุ่มพงษ์ บิดาของนางสาวนิศากร พุ่มพงษ์ อายุ 24 ปี สาวพนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร เข้าร้องขอความเป็นธรรมคดีที่บุตรสาวผูกคอกับลูกบิดประตูเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในพื้นที่ อ.หนองแค ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม ศาลจังหวัดสระบุรีออกหมายจับ 4ผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นลักษณะโทรมหญิง ตามพยานหลักฐานเบื้องต้นจากที่เกิดเหตุ โดยทั้งหมดยอมรับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง รวมถึงมีการตั้งทนายความขึ้นมา 1 คน จากนั้นได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้พยานซึ่งเป็นเพื่อนและครอบครัวของผู้ตายชี้ตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ และเป็นการยืนยันคำให้การของพยาน โดยพยานยืนยันใบหน้าผู้ต้องหาเพียง 2 คนเท่านั้นที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยรอง ผบ.ตร.เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง



+++นายชัยวุฒิ ฉัตรอุทัย ประธานที่ประชุมประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ปอมท.) เปิดเผยว่า ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้ทบทวนการเปิด-ปิดภาคเรียนของสถาบันอุดมศึกษาไทย เนื่องจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติให้สถาบันอุดมศึกษาปรับเปลี่ยนปฏิทินการศึกษาตามอาเซียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 ทำให้ระบบการศึกษาไทยขาดเอกภาพ เนื่องจากความไม่ต่อเนื่องกันระหว่างอุดมศึกษากับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สร้างผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการจัดการเรียนการสอน เช่น การเปิด-ปิดภาคเรียนที่ 2 ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นฤดูร้อนของไทย สถาบันอุดมศึกษาส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า และน้ำจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสเกิดวิกฤตขาดแคลนไฟฟ้า และน้ำในหลายพื้นที่ อีกทั้งกระทบศักยภาพในการเรียนรู้ของนักศึกษาที่ลดลงช่วงเวลา



+++การเปิด-ปิดภาคเรียนไม่สอดคล้องกับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวมทั้ง โรงเรียนสาธิต ทำให้การฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิต นักศึกษาจากคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ทั่วประเทศทำได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่มีสถานที่ฝึกการปฏิบัติการสอน และ บัณฑิตชายที่จบอาจประสบปัญหาในการสมัครงาน เนื่องจากจบในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงหลังการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารในเดือนเมษายน ทำให้ไม่สามารถ สมัครงานได้ ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งผลชี้ชัดว่าการเปิด-ปิดตามอาเซียนเกิดผลเสียมาก ที่ประชุมร่วมกันของ 6 องค์กร มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าควรให้สถาบันอุดมศึกษากลับมาเปิด-ปิดภาคเรียนตามเดิม จึงเสนอนายกฯพิจารณา เพื่อให้เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562



+++นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ฉายาโหรคมช. เปิดเผยว่า ขอยืนยันคำทำนายของหลวงปู่ที่เคยทำนายไว้เมื่อ 2 ปีก่อนว่าทุกคำทำนายยังเป็นไปตามนั้น  ที่ระบุว่าหมดเวลาของกลุ่มอำนาจเก่าไปแล้ว ส่วนที่มีผู้ทำนายว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีนารีขี่ม้าขาวเข้ามากอบกู้ประเทศนั้น  จากคำนายของหลวงปู่ดูแล้วจะไม่มีนารีที่ไหนขี่ม้ามาอีกแล้ว เพราะเวลานี้ยังเป็นหน้าที่ของรัฐบาลคสช. และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน  ที่แม้ว่าตามเจตนาของท่านจะไม่อยากทำหน้าที่  แต่หน้าที่ถูกกำหนดตามดวงชะตามาก็ต้องทำหน้าที่ต่อไปอีกยาวนาน

ข่าวทั้งหมด

X