ปธน.สหรัฐฯเผชิญแรงต้านจากการยกเลิกกฎหมายคุ้มครองเยาวชนผู้ลักลอบเข้าเมือง

นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นอีกผู้หนึ่งที่เข้าร่วมการคัดค้านนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนปัจจุบันที่ลงนามยกเลิกกฏหมายปกป้องเยาวชนที่ลักลอบเข้าเมือง (The Deferred Action for Childhood Arrivals : Daca) ที่ออกมาในรัฐบาลของนายโอบามา โดยมีเป้าหมายคือการคุ้มครองเยาวชนประมาณ 800,000 คน ไม่ให้ถูกส่งตัวกลับภูมิลำเนา ซึ่งส่วนใหญ่คือละตินอเมริกา ทั้งให้สิทธิ์ในการรับการศึกษาและทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ประธานาธิบดี ทรัมป์ลงนามในคำสั่งยกเลิกกฎหมายฉบับเดิมแล้วในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น พร้อมระบุว่าสภาคองเกรสมีเวลา 6 เดือน ในการพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อช่วยเหลือเยาวชนผู้ได้รับผลกระทบก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับ นอกจากนี้คณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ยังโต้แย้งว่ากฎหมายฉบับเดิมนั้นละเมิดรัฐธรมนูญ เพราะไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคองเกรส และประธานาธิบดีทรัมป์จะมีการทำงานร่วมกับเดโมแครตและรีพับลิกันเพื่อปฏิรูปกฎหมายฉบับนี้ต่อไป

ก่อนหน้านี้นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวแสดงความคาดหวังว่า รัฐสภาและรัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกกฎหมายรวมถึงการหาแนวทางที่เหมาะสมในการจัดการปัญหาเกี่ยวกับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีความเห็นจากกลุ่มองค์กรเอกชน และภาคธุรกิจที่เห็นว่าเป็นความโหดร้าย และน่าละอายต่อเยาวชนที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร ทั้งส่งผลถึงภาคธุรกิจ ในเรื่องการจ้างงานและการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขัดต่อผลประโยชน์และหลักการพื้นฐานของอเมริกา

สำหรับกฎหมายฉบับนี้ แม้จะให้ความคุ้มครองเยาวชนแต่ก็มีการกำหนดว่าต้องต่ออายุบัตรรับรองทุก 2 ปีและไม่ได้สัญชาติอเมริกัน รวมถึงไม่มีสิทธิ์ถือครองอสังหาริมทรัพย์

...

F163

facebook.com/barackobama