สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนระบุว่าตลาดเกิดใหม่และชาติกำลังพัฒนาได้กลายเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกเรียบร้อยแล้วในระยะหลังๆมานี้ ตั้งข้อสังเกตว่าตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า แนวโน้มเช่นนี้คงจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่เปลี่ยนแปลง จึงสมควรเรียกกลุ่มประเทศเหล่านี้ว่าเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
ผู้นำจีนพูดเรื่องนี้ต่อที่ประชุมกลุ่ม 5 ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รายใหญ่ (บริกส์)ในเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยนทางภาคใต้ของประเทศในวันนี้ พร้อมคาดว่าเวทีพูดคุยของกลุ่มบริกส์จะช่วยให้มีการกระชับความร่วมมือกันมากขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินวาระการพัฒนาแบบยั่งยืนให้สำเร็จภายในปี 2573 ผู้นำจีนแสดงความมั่นใจว่าเวทีประชุมนี้จะส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมมือกันของกลุ่มประเทศพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นจนถึงขั้นที่สามารถจะสร้างกลไกเพื่อการพัฒนาตามแบบของบริกส์เอง
ผู้นำจีนระบุว่าในปัจจุบันนี้ เศรษฐกิจโลกเติบโตมากขึ้น การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศขยายตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันการปฏิวัติด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยังสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับอุตสาหกรรม เทคโนโลยีและรูปแบบทางธุรกิจใหม่ๆให้เกิดขึ้นมากมายเช่นกัน ผู้นำจีนระบุว่า เมื่อพิจารณาในมุมมองเช่นนี้เราจะเห็นว่าตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาในยุคปัจจุบันมีโอกาสในการขับเคลื่อนการพัฒนาให้ประสบผลสำเร็จมากกว่าในอดีต