รองนายกฯเผย ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการติดตามตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ แต่ยืนยันไม่ได้ปล่อยให้หนี

ความคืบหน้าการติดตามตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลบหนีการรับฟังคำตัดสินในคดีโครงการรับจำนำข้าว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าการติดตามตัวนางสาวยิ่งลักษ์ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถบอกในรายละเอียดได้ ซึ่งหากทุกอย่างดำเนินการเสร็จตนเองจะเป็นผู้เปิดเผยให้ทราบ โดยได้ติดตามจากภาพกล้องวงจรปิด และเส้นทางของรถยนต์ โดยใช้เทคนิคเดียวกับกรณีของนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่หลบหนีคดีในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน เมื่อปี 2551 พร้อมยืนยันด้วยว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดตาข้างเดียวหรือรู้เห็นเป็นใจให้นางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนี โดยมีการติดต่อขอข้อมูลจากต่างประเทศ แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการทำงาน ว่าจะต้องได้ข้อสรุปเส้นทางหลบหนีและที่อยู่ของนางสาวยิ่งลักษณ์เมื่อใด

ส่วนการเดินทางไปประเทศกัมพูชาในวันที่ 7 กันยายนนี้  พล.อ.ประวิตร ระบุว่าจะเดินทางไปพร้อมกับนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้ไปพูดคุยเรื่องการหลบหนีของนางสาวยิ่งลักษ์

ส่วนกรณีที่มีการเตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้รื้อคดีสลายชุมนุมปี 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ทุกอย่าง และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง หรือมีคลื่นใต้นน้ำแต่อย่างใด

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึง กรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุวันเลือกตั้งว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม ปี2561 ซึ่งกำหนดวันเลือกตั้งยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดเนื่องจากต้องรอการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับให้แล้วเสร็จก่อน แต่ยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นในปี 2561 หรือไม่

และกรณีสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี รัฐบาลก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ ขณะที่ความขัดแย้งของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ประเทศเมียนมาร์ ประวิตรระบุว่าผู้อพยพไม่ได้เดินทางมาที่ประเทศไทย แต่จะเดินทางไปบังคลาเทศทั้งหมด

...

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี