เมียนมาเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติเร่งแก้ไขปัญหาโรฮิงญา

หน่วยงานด้านความมั่นคงของเมียนมา และนางอองซาน ซูจี ผู้นำเมียนมา ต้องเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติให้เร่งแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ที่ถูกปราบปรามอย่างหนักจนมีเกือบ 90,000 คนแล้วที่ต้องอพยพไปบังคลาเทศในช่วง 10 วันมานี้ โดยการปราบปรามครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เมื่อกลุ่มติดอาวุธของชาวโรฮิงญาก่อเหตุโจมตีด่านชายแดนหลายแห่ง และกองทัพเมียนมาตอบโต้ด้วยการทำลายหมู่บ้านของชาวโรฮิงญา ซึ่งผู้รอดชีวิตหลายคนระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงมีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่นางซูจีถูกวิจารณ์ว่าไม่มีท่าทีใดๆ ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น นางยางอี ลี ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา แสดงความกังวลว่า ประชาชนจำนวนมากตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของพวกเขา และนายอันโตนิโอ กูแตเรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาใช้ความอดทน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์

นอกจากนี้ยังมีนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนอีกจำนวนมากที่ร่วมแสดงความกังวล รวมถึงมาลาลา ยูซาฟไซ ชาวปากีสถานเจ้าของรางวัลโนเบล และนางอานิฟา อามาน รัฐมนตรีการต่างประเทศมาเลเซีย ที่ร่วมตั้งคำถามถึงนางซูจีที่นิ่งเฉย

ก่อนหน้านี้ นางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ได้เข้าพบนางซูจี และเปิดเผยว่า นางซูจีรับข้อเสนอของอินโดนีเซียในการแก้ไขปัญหาที่รัฐยะไข่ โดยอินโดนีเซีย เรียกร้องรัฐบาลให้การคุ้มครองประชาชนทุกชาติพันธุ์ และทุกศาสนา

..