กราวรูด!ศรีสุวรรณ ร้องเรียนขรก.ระดับสูงเอื้อประโยชน์ ให้ บอส อยู่วิทยาหนีคดี ต่อปปช.

04 กันยายน 2560, 14:02น.


การเดินทางเข้าร้องเรียนของ นายศรีวุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ  ป.ป.ช. เพื่อร้องขอให้พิจารณาโทษข้าราชการระดับสูงที่สงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส  หมดอายุความไปถึง 4 ข้อหาแล้ว โดยในเอกสาร ที่ร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช ให้พิจารณา ความผิดต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำการอันเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ต้องหาจนคดีขาดอายุความ  และไม่ให้ถูกดำเนินคดีในข้อหา ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้อื่นและไม่แจ้งเจ้าหน้าที่  หรือ ข้อหาชนแล้วหนี  ที่เพิ่งขาดอายุความไปเมื่อวานนี้  (3 ก.ย. 60) รวมทั้งข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งคดีขาดอายุความในปี 56 และไม่ฟ้องในข้อหา ขับรถในขณะเมาสุรา  



สำหรับรายชื่อผู้ถูกร้อง มีตั้งแต่ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายเศกสรรค์ บางสมบูรณ์ อดีตอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ นายสุพล ยุติธาดา อดีตอัยการอาวุโส นายฤาชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชียวชาญพิเศษในฐานะเจ้าของสำนวนคดีทายาทกระทิงแดง พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 



นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555  เห็นได้ชัดว่าเจ้าพนักงานจงใจที่จะประวิงเวลาหรือการค้าสำนวน เนื่องจากให้เวลาในการสอบสวนมากเกินไป ทั้งที่ในฐานความผิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการไม่ยากต่อการจับกุมตัวนายวรยุทธ มาดำเนินคดี 



ด้านผู้แทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า  เอกสารการร้องขอพิจารณาฉบับนี้จะเป็นการยื่นสมทบในการพิจารณา เพราะ ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะกรรมการไต่ส่วนข้อเท็จจริงอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว  รวมทั้งได้พิจารณาความผิดตำรวจ สน.ทองหล่อ จำนวน 5 นาย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าทีส่วนการพิจารณาความผิดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. รวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณาต่อไป 



ขณะนี้ นายวรยุทธ อยู่วิทยา  ยังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศซึ่งยังไม่สามารถจับกุมตัวได้  แม้ว่าจะประสานตำรวจสากลออกหมายแดงไปหลายประเทศแล้วก็ตาม  ส่วนความผิดในข้อหาหลักคือ ข้อหาขับรถโดยประสาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต  ที่ยังเหลือเป็นข้อหาสุดท้าย ก็จะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. 2570  หรืออีกประมาณ 10 ปี 



 

ข่าวทั้งหมด

X