โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังคุกคามความปลอดภัยของชาวรัสเซียและละเมิดเอกสิทธิทางการทูต โดยการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ปฏิบัติการค้นหาสถานกงสุลรัสเซียประจำนครซานฟรานซิสโก รวมถึงอพาร์ทเมนท์ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีเอกสิทธิทางการทูต โดยรัสเซียมองว่า การกระทำดังกล่าวเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยของชาวรัสเซียโดยตรง ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังสหรัฐฯ มีคำสั่งให้รัสเซียปิดสถานกงสุลประจำนครซานฟรานซิสโก และอาคารของรัสเซียอีก 2 แห่งในกรุงวอชิงตันและนครนิวยอร์กภายในวันนี้ เพื่อตอบโต้รัสเซียกรณีมีคำสั่งเนรเทศเจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ จำนวน 755 คนออกนอกประเทศเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม โดยการสั่งปิดสถานกงสุลรัสเซียและอาคารอีก 2 แห่ง รวมถึงคำสั่งให้นักการทูตรัสเซีย พร้อมครอบครัวออกนอกที่พักมีขึ้น 1 วันก่อนครบกำหนดเส้นตายที่เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ ต้องเดินทางออกจากรัสเซียภายในวันที่ 1 ก.ย. และการตัดสินใจดังกล่าวก็เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้ประท้วงต่อการกระทำของสหรัฐฯ ซึ่งเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศและธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูต รัสเซียจึงขอสงวนสิทธิดำเนินมาตรการตอบโต้
ขณะที่ นายยูริ ยูชาคอฟ นักการทูตรัสเซีย มองการกระทำของสหรัฐฯ ว่า เป็นการเทคโอเวอร์โดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียถึงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น หลังรัสเซียผนวกไครเมียจากยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2557
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP