รองนายกฯแจงการปรับงานด้านยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ สร้างความเป็นธรรม

01 กันยายน 2560, 14:42น.


การปาฐกถาพิเศษเรื่องทิศทางกระบวนการยุติธรรมไทยต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศจะไม่สำเร็จถ้าไม่มียุทธศาสตร์ชาติที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติปรับเปลี่ยนได้ตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ต้องอยู่บนความจริง สถานการณ์โลก ความเป็นไทย หลักนิติธรรม และกรอบเป้าหมายของสหประชาชาติ ขณะที่กระบวนการยุติธรรมมี 4 มิติ คือ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทางแพ่ง ทางปกครอง ทางรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องเข้ามาร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาคนและด้านการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้คนในสังคมเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมโดยตรง รัฐธรรมนูญปัจจุบันบัญญัติว่ารัฐต้องจัดให้มีการบริหารงานยุติธรรมในทุกด้าน จึงต้องปรับปรุงงานด้านกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ ให้คนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างสะดวกและง่าย รวดเร็ว เสียค่าใช้จ่ายถูก อีกทั้งต้องกำหนดเวลาของการดำเนินคดีทุกขั้นตอนอย่างชัดเจนว่าจะใช้เวลากี่เดือน กี่ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต้องไปคิดว่าจะทำรูปแบบออกมาเป็นอย่างไร  



นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลทราบว่านับวันมีคดีขึ้นศาลเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 ธ.ค.2559 มีการร้องคดีต่อศาลทั่วประเทศ โดยในศาลชั้นต้นมี 1 แสน 75,000 คดี ศาลสามารถตัดสินได้ 1 แสน 40,000 คดี ที่เหลือไปพอกในปีถัดไป ศาลอุทธรณ์มี 50,000 คดี สามารถตัดสินได้เสร็จ 40,000 คดี คดีขึ้นศาลฎีกา 20,000 ตัดสินคดีเสร็จ 11,000 คดี ซึ่งทำให้ต้องมีการปรับปรุง ปฏิรูป โดยควรเปลี่ยนให้จบแค่ชั้นศาลอุทธรณ์แล้วให้เหลือแต่คดีที่จำเป็นจริงๆให้ถูกส่งไปถึงศาลฎีกา อย่างไรก็ตาม กระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องยุติลงได้อย่างน่าเชื่อถือ และเกิดความพึงพอใจ แต่ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจ ย่อมมีคนที่ไม่พอใจผลตัดสิน ซึ่งเราก็ปล่อยเขาไป  และเมื่อคดียุติจบในศาลแล้ว อย่าได้ทวีตเตอร์กันอีกเลย ขอให้จบกันเท่านี้



แฟ้มภาพ 

ข่าวทั้งหมด

X