จัดหนัก! ปชป. ซ้ำ คสช.ไม่แทรกแซงคดีทุจริตจำนำข้าว หาหลักฐานเพิ่มมีรอบ2ทุจริตอีก

01 กันยายน 2560, 11:57น.


การติดตามกระบวนการทุจริตจำนำข้าว นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์และ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ร่วมแถลงข่าว  นายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า จากการที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีการระบายข้าวแบบจีทูจี (รัฐต่อรัฐ) จนส่งผลให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ และพวกต้องถูกตัดสินจำคุก โดยขอขอบคุณการทำงานของอัยการสูงสุด และศาลฎีกาฯในการตัดสินคดี พร้อมย้ำว่าในคดีโครงการรับจำนำข้าว เป็นการตรวจสอบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยอาศัยสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือเป็นกระบวนการระบบประชาธิปไตยตามปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือมีการแทรกแซงจากคสช.แต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า ในการตรวจสอบการระบายข้าวแบบจีทูจี ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ซึ่งการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความวิจารณ์ถึงกระบวนการยุติธรรม จึงไม่เป็นความจริง ขณะเดียวกันมองว่าการชี้นำว่าศาลถูกแทรกแซง เป็นการหวังผลทางการเมือง และทางการต่างประเทศในการขอลี้ภัยของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังหลบหนีการฟังคำตัดสินในคดีปล่อยปละละเลยให้ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว 



นายแพทย์วรงค์ กล่าวด้วยว่าจากคดีระบายข้าวแบบจีทูจี ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตถูกดำเนินคดี ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการ  และนักธุรกิจ จึงขอให้เป็นอุทธาหรณ์แก่ทุกฝ่าย ดังนั้นนักการเมืองที่เข้ามาจะต้องทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่รวมหัวกับนักธุรกิจเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ รวมไปถึงข้าราชการด้วยเช่นกัน



นอกจากนี้ผลพวงการตรวจสอบคดีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมในการขยายผลการทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจีรอบสองอีก 14 ล้านตัน ซึ่งมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพียงคนเดียวคือนายบุญทรง ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงก็สามารถฟ้องซ้ำได้เพราะถือเป็นการกระทำผิดที่ต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ยังมีการขยายผลเชื่อมโยงการทุจริตมันสัมปะหลัง 4.79 ล้านตัน อีกด้วย



สำหรับ การตรวจสอบทุจริตไม่ใช่เพียงการระบายแบบจีทูจี ยังตรวจสอบระบายข้าวถุงที่มีส่อว่าทุจริตอีก 2.5 ล้านตัน ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งเรื่องไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แล้ว และกำลังการรอชี้มูลความผิดอยู่   อย่างไรก็ตามรู้สึกเสียดาย  และแปลกใจที่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่เดินไปฟังคำตัดสินในวันที่ 25 ส.ค  เพราะที่ผ่านมานางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ต่อสู้มาโดยตลอด อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ก็เปิดโอกาสให้นางสาวยิ่งลักษณ์สามารถอุทธรณ์ได้ ดังนั้นจึงตั้งข้อสงสัยว่าถ้าหากคิดว่าตัวเองไม่ผิดจะหนีทำไม และพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่นางสาวยิ่งลักษณ์มีนิสัยอย่างไร  ขณะที่นายราเมศ ย้ำถึงการที่นายทักษิณโพสข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่าเป็นการโจมตีกระบวนการยุติธรรมซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะ อำนาจตุลาการเป็นอำนาจที่ได้มาโดยชอบไม่มีใครสั่งได้ มีทางเดียวที่จะทำได้คือการทำลายล้างเท่านั้น

ข่าวทั้งหมด

X