หัวหน้าคสช. จัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เป็นครั้งที่ 9 วันนี้เปลี่ยนเวลาเร็วขึ้น กล่าวถึงเรื่องการสื่อสาร ทั้งในระบบ นอกระบบ ในโซเชียลมีเดียว่า การที่มีคำกล่าวอ้างว่าประเทศเรานั้นเป็นประเทศที่มีศักดินา มีไพร่ มีอำมาตย์ ความเป็นจริงเราไม่ได้เป็นเช่นนั้น เราเลิกใช้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานเลิกทาสมาเป็นเวลานานแล้ว ใครที่ยังใช้คำเหล่านี้อยู่ ถือว่าดูถูกคนไทยทั้งประเทศ เราทุกคนมีความเท่าเทียม เสมอกันในความเป็นคน อาจจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างด้วยชาติกำเนิด อาชีพ รายได้ ระดับคุณภาพชีวิต ที่แตกต่างกัน อาจด้วยเหตุผลหลายประการ  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศของเราเป็นประเทศที่เป็นเสรีประชาธิปไตย ขีดความสามารถในการแข่งขัน ประกอบอาชีพจึงไม่เท่าเทียมกัน เรามีพื้นฐานต้นทุนที่ต่างกัน แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลทุกรัฐบาล ต้องพยายามลดความเหลื่อมล้ำเหล่านั้นให้ได้ ถ้าไปอ้างว่าเป็นเพราะสิ่งต่างๆ หรือโทษสถาบันฯ เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง สถาบันฯ ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง ทรงมอบพระราชอธิปไตยให้กับรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่า ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานอะไรก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หรือจารีตประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาล ซึ่งน้อยมาก   คสช. ต้องการมายุติปัญหาเหล่านั้น และเดินหน้าประเทศไปให้ได้ ยุติการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งแยกของทุกระดับทั้งบริหาร ราชการ ประชาชนให้ได้ วันนี้อยากให้ทุกคนแยกกันให้ออก ระหว่างอะไรที่เป็นความผิด อะไรที่เป็นความไม่ดีของบุคคล กลุ่มบุคคล ที่ต้องใช้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปตามปกติ แต่ในส่วนของประเทศชาติ ต้องเดินไปข้างหน้าด้วย

+++ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับนักการเมืองที่ดี ๆ มีมากมาย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และคิดว่าอนาคตก็มีนักการเมืองหน้าใหม่ ๆ อีกมาก ซึ่งเขาอยากจะเข้ามาดูแลบ้างเมืองบ้าง แต่ช่วงนี้ถ้าเรามีการปฏิรูปทุกภาคส่วนทั้ง 11 เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเมือง คนดีๆ ก็จะเข้ามา ซึ่งมีอำนาจมากอยู่แล้ว คนไม่ได้มีน้อย อย่าไปเหมาเข่งกันไปมา ว่าใครดีหรือไม่ดี ต้องแบ่งพวกแบ่งฝ่ายกันต่อไป สรุปคือให้กฎหมายตัดสิน ให้มาช่วยกัน   

+++หัวหน้าคสช. กล่าวถึงงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมว่า  กฎหมายที่อยู่ค้างในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หรือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เก่ามากก็จะเข้าไปก่อน เป็นการแก้ไขให้ทันสมัย ไม่ซ้ำซ้อน สอดคล้องกับหลักสากล วันนี้หลายกฎหมายไม่ทันเวลา ไม่ทันสมัย  เรื่องกฎหมายอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับหลายองค์กรต้องพยายามรอบคอบและสอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศในภาพรวม ต้องอยู่ในการปฏิรูปและเข้าสู่การพิจารณาของสนช. อาจจะต้องทำเร็วได้ ทำช้าได้ช้า ทำต่อไปในอนาคตต้องทำ เพราะผูกพันหลายส่วน หลายฝ่าย หลายงาน หลายผู้รับผลกระทบ

+++กรณีนางสาวกริชสุดา คุณะแสน พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่อยากจะไปให้ร้าย แต่นางสาวกริชสุดา ให้ร้าย คสช. ให้ร้ายกองทัพ ให้ร้ายประเทศชาติ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ตอนเรียกตัวมาพูดคุย ผู้รับผิดชอบรายงานแล้วว่า ครบ 3 วัน  5 วัน 7 วัน คุยกันดี สามีก็มาด้วย พอถึงวันกลับก็ให้กลับ ยืนยัน ทหารไม่ได้ซ้อม ไม่เข้าใจจะไปทรมานอะไรขนาดนั้น ทั้งหมดไม่มีใครถูกล้อม ถูกทรมานสักคนตรงไหน นี่ถือว่าส่อเจตนาไม่ดี และไปร่วมกลุ่มกับใครก็รู้อยู่ที่ทำความผิดทั้งนั้น ละเมิดสถาบันบ้าง หนีหมายเรียกหมายจับบ้างมากมาย จะต้องถูกดำเนินคดีและไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนใครเลย นโยบาย คสช. ไม่มีอยู่แล้ว

+++ส่วนเรื่องขบวนการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนถูกดำเนินคดีและออกหมายเรียกหมายจับไปแล้ว แต่หนีไปต่างประเทศ บางประเทศที่ใหญ่ และเขาไม่มีกฎหมายพวกนี้และเขาไม่เห็นความสำคัญของไทย ในเรื่องของกฎหมายหมิ่นฯ ถือว่าเป็นการยากเหมือนกัน ขอเอ่ยชื่อเลย นาย ชูพงษ์  ถี่ถ้วน นายอเนก ชัยชนะ นายเสน่ห์ ถิ่นแสน นายอำนวย แก้วชมพู นายองอาจ ธนกมลนันท์ และอื่น ๆ อีก  รวมหัวกลุ่มต่อต้านอะไรต่าง ๆ นี้ด้วย มีหลักฐานเชื่อมโยงกันอยู่ มีรูปถ่าย มีอะไรเจอกันอยู่ ฉะนั้นคนเหล่านี้ ใช้ไม่ได้ ทุกคนมีคดีอาญา ฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดี ก็พยายามจะทำหนังสือส่งผู้ร้ายข้ามแดนอาจจะยาก แต่การเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียมีปัญหา เพราะบางอย่างเปิดที่ต่างประเทศ ไปปิดที่ต่างประเทศซึ่งใช้ไม่ได้ เพราะมีกฎหมายของเขา เพราะเราทำในประเทศไทยต้องใช้กฎหมายดำเนินการ

+++ส่วนเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้คือ เงินเดือนข้าราชการ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า อยู่ในขั้นที่กำลังพิจารณาอยู่  อย่าเพิ่งเป็นข่าว ต้องใช้กฎระเบียบ กฎกติกาและข้าราชการไม่ได้ปรับมานานแล้ว ในส่วนของเอกชน 15,000 บาทปรับไปแล้ว บางคนจ้างหน้าที่ระดับล่างเงินเดือน 6,000 - 7,000 บาทอยู่ไม่ไหว จะทำกันอย่างไรไปว่ากันอีกที

+++สำหรับนโยบายปฏิรูปวันที่ 9 ส.ค. ที่จะเปิดตัวชี้วัดเรื่องปฏิรูปที่สโมสรทหารบก เชิญทุกพวกทุกฝ่าย ไม่ได้เพื่อประโยชน์ของกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด

+++ส่วนหนี้สินครัวเรือน น่าเป็นห่วงอีกเหมือนกัน โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคล การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยไม่ระมัดระวัง มีความอันตราย พยายามให้ใช้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ต้องรู้จักการอดออมบ้าง มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย มีการวางแผนอนาคตไว้ด้วย