หลังจากแกนนำ กปปส.ประชุมร่วมเสร็จสิ้น ได้ขึ้นเวทีร่วมกัน โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ขึ้นเวทีพร้อมประกาศข้อสรุปการประชุม ว่าให้ทุกเครือข่ายไปรวบรวมกำลัง เพื่อเตรียมกำลังสำหรับวันเคลื่อนไหวใหญ่ทีเรียกว่า วันเผด็จศึก แต่ละเครือข่ายจะรวบรวมคนได้กี่คน ให้กลับไปทำทะเบียนรายชื่อให้เรียบร้อย รวมถึงการรวมกำลังพลในครั้งนี้ ควรเลือกคนที่มีสุขภาพดีมาต่อสู้เพื่อไม่ให้เป็นภาระของแพทย์พยาบาล ส่วนคนที่มารวมชุมนุมไม่ได้ ให้ส่งเสบียงมารวมดูแลผู้ชุมนุม พร้อมทั้งใหัเตรียมเสื้อผ้ามาต่อสู่ การต่อสู้คราวนี้ต้องติดต่อกันอย่างน้อย15วัน รวมถึงให้เตรียมกำลังคนไว้สับเปลี่ยนกำลังและให้แต่ละเครือข่ายกลับไปวางแผนการเดินทางให้รัดกุม พร้อมแนะนำว่าให้เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน และหากเครือข่ายต่างๆสามารถยุบรวมเป็นเครือข่ายเดียวกันได้ ให้ยุบรวมกัน เพื่อให้การดูแลทำได้อย่างทั่วถึง และตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ให้ถือว่าการต่ดสู้มาถึง ยกสุดท้าย ทุกเครือข่าย ต้องเตรียมพร้อมเต็มที่ หากมีการประกาศเคลื่อนพลในวันเผด็จศึก ต้องสามารถเคลื่อนขบวนได้ทันที ส่วนการกำหนดวันเคลื่อนไหวใหญ่ จะเลือกจากการส่งสัญญาณนกหวีดของนายสุเทพ ซึ่งจะเลือกจาก 2กรณี ว่ากรณีใด เกิดขึ้นก่อน ระหว่างวันที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในความผิดคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งหากวันที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด จะต้องรอสัญญาณนกหวีดจากนายสุเทพ ก่อน หรืออาจจะเป็นวันที่ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. จนทำให้นายกฯพ้นจากตำแหน่ง จะถือว่าวันนั้นเป็นวันเผด็จศึกทันที พร้อมกันนี้ได้กล่าวว่าการชุมนุมใหญ่ กปปส.จะยืดอำนาจประเทศไทยทันที โดยจะกระทำตามกฏหมายว่าด้วยอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย เนื่องจากว่า รัฐบาลไม่สามารถรักษาอธิปไตยให้เป็นของประชาชน ส่วนกิจกรรมหลังจากนี้ เครือข่ายภาคต่างๆจะเตรียมความพร้อมขึ้นพูดปราศรัยบนเวทีกปปส.ในคืนนี้
บุศรินทร์