น.ต.นพ. บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนันบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นออลไอวีเอฟ คลินิกเวชกรรมเฉพาะทางสูตินรีเวช ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารแห่งหนึ่งย่านถนนวิทยุ หลังจากหนึ่งในแม่ของเด็กอุ้มบุญ 9 คนให้การซัดทอดว่าคลินิคดังกล่าวรับทำเด็กอุ้มบุญ โดยการตรวจค้นวันนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังสัปดาห์ที่แล้วได้เข้ามาตรวจค้นและพบว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้อง มีแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ย่างถูกต้อง แต่ขาดใบอนุญาตจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ เมื่อถึงที่ตั้งคลินิก พบแค่เพียงรองเท้าฟองน้ำจำนวนมาก และพบร่องรอยการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ โดยตำรวจเชื่อว่าได้มีการผู้ประกอบกิจการได้หลบหนีไปแล้วก่อนหน้านี้ 2-3 วัน
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบว่า นายชิเงตะ มิตสึโตกิ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของน้ำเชื้อ เด็กอุ้มบุญทั้ง 9 คน มีประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทยถึง 65 ครั้ง โดยบางครั้งมีการใช้หนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชา และยังพบอีกว่า หลายครั้งมีการอุ้มเด็กเล็ก ทั้งชายและหญิงออกนอกประเทศด้วย คาดว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในแถบเอเชีย โดยมีรายงานว่า นายชิเงตะ ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่7ส.ค.57 เวลา01.00น.ด้วยสายการบิน Nx 0879 ปลายทางมาเก๊า โดยเจ้าหน้าที่ตม.ยังพบว่าเดินทางเข้าออกประเทศไทยมาตั้งแต่ปี2555ประมาณ65ครั้ง
ด้านนางญาณี เลิศไกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า ได้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจข้อมูลเอกลักษณ์ทางพันธุกรรม หรือว่าดีเอ็นเอของเด็กทั้ง 9 คนแล้ว ส่วนการตามหาสูติบัตร หรือข้อมูลทางทะเบียนยังไม่พบแน่ชัด ขณะนี้จึงต้องรับดูแลเด็กทั้ง 9 คนต่อไป จนกว่าจะมีผู้แสดงตัวเป็นญาติ หรือพ่อแม่ของเด็ก ถ้าหากไม่มีผู้มาแสดงตัวต้องเข้าสู่กระบวนการกับเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ที่จะต้องหาผู้รับเลี้ยงต่อไป ยอมรับว่ามีผู้ติดต่อทางโทรศัพท์อ้างว่า จะให้เงินเลี้ยงดูและเกี่ยวพันกับเด็ก แต่ว่าทางกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ไม่ได้รับเงิน เพราะว่ามีความพร้อมดูแลเด็กได้อยู่แล้ว