เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานอ้างนายทิม มัลลอย ผู้ช่วยผอ.สถาบันจัดทำโพลล์ มหาวิทยาลัยควินนิเพียกของสหรัฐว่า ผลโพลล์ล่าสุดของสถาบันฯ ซึ่งสำรวจความเห็นของชาวอเมริกัน 1,514 คนทั่วประเทศสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 17-22 สิงหาคม สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความแตกแยกในสังคมอเมริกันได้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับสัญญาณบ่งชี้อื่นๆคือ กรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความตำหนิการทำงานของนักการเมืองพรรครีพับลิกันและการที่นายทรัมป์ชื่นชมกรณีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ภาพปรากฏการณ์สุริยุปราคาในสหรัฐฯเมื่อต้นสัปดาห์นี้ แสดงภาพของนายทรัมป์บดบังภาพของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา พร้อมข้อความว่าเป็นภาพสุริยุปราคาที่ดีที่สุดเท่าเคยมีมา
ผลสำรวจบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ร้อยละ 62 ระบุว่า นายทรัมป์สร้างความแตกแยกให้กับสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ร้อยละ 31 เห็นว่านายทรัมป์พยายามจะทำงานเพื่อให้ประชาชนในประเทศสามัคคีกัน นับเป็นผลคะแนนที่แย่ที่สุดสำหรับนายทรัมป์นับแต่มหาวิทยาลัยฯจัดทำโพลล์เรื่องนี้ สำหรับคำถามปลายเปิดคือเปิดโอกาสให้กลุ่มประชากรที่สำรวจ แสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของนายทรัมป์โดยใช้คำพูดของตนเองอย่างอิสระ ร้อยละ 64 กล่าวถึงนายทรัมป์ว่าเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ร้อยละ 59 กล่าวถึงนายทรัมป์ว่าเป็นคนปัญญาอ่อน ร้อยละ 58 บอกว่า ไร้ประสิทธิภาพ ร้อยละ 50 บอกว่านายทรัมป์เป็นคนโกหก และร้อยละ 49 เรียกนายทรัมป์ว่า ประธานาธิบดี
อีกหนึ่งสัญญาณที่สร้างความแตกแยกของนายทรัมป์คือคำปราศรัยที่สร้างความแตกแยกให้สาธารณชนในหอประชุมแห่งหนึ่งในเมืองฟีนิกส์ รัฐอริโซนาเมื่อวันอังคาร ซึ่งนายทรัมป์ตำหนิสื่อมวลชนว่าไม่มีจรรยาบรรณ วิจารณ์สว.พรรครีพับลิกันว่าล่าช้าในการพิจารณาร่างกฏหมายงบประมาณและข่มขู่นักการเมืองพรรคเดโมแครตว่ารัฐบาลสหรัฐฯอาจจะสั่งปิดสถานที่ราชการชั่วคราวเพื่อจะได้นำงบประมาณบางส่วนไปใช้ก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก