ผบ.ตร. พร้อมรับมือ คนเชียร์"ยิ่งลักษณ์ ฟังคำตัดสินคดีจำนำข้าวพรุ่งนี้
ความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการดูแลความปลอดภัยรอบศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว วันที่ 25 สิงหาคม 2560 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งช่าติ เปิดเผยเผย ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เตรียมกำลังเอาไว้ 24 กองร้อยที่เรียกมาจากนครบาลและกองบัญชาการภาคอื่นๆ โดยบริเวณรอบศาลฎีกาจะมีจุดคัดกรองทั้งหมด 3 จุด เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ศาล โดยจะมีการทุ่มสรรพกำลังและใช้อุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมเช็คข่าวกรองความเคลื่อนไหวทุกมิติ ยืนยันไม่ห้ามประชาชนที่จะมา แต่ทุกอย่างห้ามอยู่นอกกรอบของกฎหมาย ล่าสุดจากการประเมินคาดว่าน่าจะมีมวลชนเข้ามาในพื้นที่โดยรอบศาลฎีกาหลักพันคน และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางพร้อมกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ เพื่อดูแลความเรียบร้อยด้วยตนเอง รวมถึงการจับตากลุ่มฮาร์ดคอร์มือที่สามที่อาจมีความเคลื่อนไหวเข้าข่ายผิดกฎหมายด้วย
ส่วนการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ครั้งที่ 8/2560 ยังไม่มีการพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพล ในตำแหน่งผู้บังคับการ(ผบก.) ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นผู้ ถอนวาระออกไปก่อน โดยจะมีพิจารณาวาระแต่งตั้งฯในวันที่ 30 สิงหาคม โดยเป็นการแต่งตั้งในคราวเดียวตั้งแต่ ผบก. -รองผบ.ตร. รวดเดียวเลย ก็จำนวนหลายตำแหน่ง โดยยึดหลักเกณฑ์ตามกฎก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559 ไม่มีนโยบายปรับคุณสมบัติ หรือที่ลือกันว่าจะเพิ่มจำนวนปีในการครองตำแหน่งรองผบก.ขึ้นเป็นผบก. จาก 5 ปี เป็น 6 ปีแต่อย่างใด
ส่วนคุณสมบัติของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และกระแสข่าวโยกย้าย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 เป็น ผบช.น. นั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นการพิจารณาก็ดูหลายองค์ประกอบ ก็อาจไม่ใช่อย่างนั้น ตนเชื่อว่าผู้บัญชาการ ภ. 1-9 ศชต. บช.ก. เป็นได้ทุกคน อย่างไรก็ตามไม่หนักใจในการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ เหมือนปกติทุกครั้งมีทั้งคนสมหวัง ผิดหวัง แต่ตนจะทำให้ดีที่สุด
ส่วนกรณีชาวต่างชาติแอบอ้างเป็นตำรวจอาสาเรียกรับเงินแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ขณะนี้ทราบว่ามีการจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า หลังจากนี้ได้สั่งกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบข้อมูล ประวัติบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่หรืออาสามากยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการกับชาวต่างชาติที่มีลักษณะแอบอ้างหาผลประโยชน์มาโดยตลอดอยู่แล้ว