ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ โล่เลขา นายกแพทยสภา พร้อมด้วย ศาสตราจารย์คลินิกแพทย์หญิง วิบูลพรรณ ฐิตะดิลก ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ชี้แจง กรณีการอุ้มบุญเด็กแฝด ว่าทางแพทย์สภา ทราบชื่อแพทย์ที่เป็นคนทำการอุ้มบุญแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ ส่วนเจ้าของสถานประกอบการ พบว่า มีแพทย์อีก1คนเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งตอนนี้กรมสนับสนุนสุขภาพ(สบส. )ได้ส่งชื่อของแพทย์ทั้ง2คนมาที่แพทยสภาแล้ว แต่จะต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการแพทยสภา และส่งเรื่องให้อนุกรรมการด้านจริยธรรมพิจารณาความผิดก่อน เนื่องจากเรื่องนี้ มีบทลงโทษตั้งแต่การตักเตือน จนถึงการเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ ซึ่ง ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ ยอมรับว่า สาเหตุที่การทำงานของแพทยสภา ไม่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้ ส่วนหนึ่งมาจากการมีบุคคลากรและงบประมาณไม่เพียงพอ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวให้สนับสนุนการทำงาน ด้านศาสตราจารย์คลินิกแพทย์หญิง วิบูลพรรณ ได้ชี้แจงว่าอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า การอุ้มบุญไม่ใช่สิ่งผิด แต่สาเหตุของเรื่องนี้เกิดจากการแสวงหาประโยชน์จากการอุ้มบุญ ยืนยันว่ายังมีสามีภรรยาอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความพร้อมแต่ไม่สามารถมีบุตรได้และต้องการแก้ปัญหาด้วยการอุ้มบุญ ส่วนอีกกรณีที่มีการกล่าวว่า มีธุรกิจการอุ้มบุญเพื่อนำไขสันหลังของทารกมาผลิตเป็นสเต็มเซลล์ แพทยสภา คิดว่าเป็นเพียงข่าวลือ เพราะทางการแพทย์ไม่สามารถทำได้อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เคยมีกรณีการอุ้มบุญเกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี2554 ซึ่งตอนนี้การพิจารณาบทลงโทษของแพทย์ที่ดำเนินการก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของแพทยสภา
บุศรินทร์