บีบีซี รายงานว่า การปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมในหอประชุมฟีนิกซ์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ รัฐแอริโซนา ในหัวข้อการทำให้ประเทศสหรัฐฯกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในวันนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่ารัฐบาลสหรัฐฯอาจจะปิดสถานที่ราชการชั่วคราว ถ้าหากมีความจำเป็น เพื่อจะได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไปช่วยก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนติดต่อกับประเทศเม็กซิโกให้สำเร็จตามคำมั่นที่เขาเคยให้ไว้ระหว่างการณรงค์หาเสียงเมื่อปีที่แล้ว
สำหรับประเด็นเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง ผู้นำสหรัฐฯได้ตำหนิพรรคเดโมแครต พรรคฝ่ายค้านว่า ชอบค้านทุกเรื่อง รวมถึงแผนก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนติดต่อกับเม็กซิโก ตลอดพื้นที่ภาคใต้ของสหรัฐฯ ระบุว่าแนวทางของพรรคเดโมแครตจะกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตของสาธารณชนในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ระหว่างการปราศรัย 80 นาที นายทรัมป์ได้ตำหนิสื่อมวลชนของสหรัฐฯว่าเปิดพื้นที่สื่อให้กลุ่มแนวคิดขวาเข้าไปใช้เป็นเครื่องมือเผยแพร่แนวคิดต่างๆในทางบิดเบือนและสร้างความขัดแย้งในสังคม
ในการปราศรัยครั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯได้พูดหลายประเด็นรวมถึงเกาหลีเหนือ นายทรัมป์แสดงความหวังว่าจะสามารถลดความตึงเครียดจากโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ นายทรัมป์ระบุว่า เขาประเมินสถานการณ์ว่าขณะนี้นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อาจจะเริ่มฟังคำทักท้วงต่างๆจากสหรัฐฯบ้างแล้ว พร้อมทั้งแสดงความหวังว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีอาจจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น เขาปิดท้ายการปราศรัยด้วยการเรียกร้องให้พลเมืองอเมริกันมีความสามัคคีกัน ขณะที่การปราศรัยของนายทรัปม์ภายในหอประชุมได้รับการตอบรับด้วยเสียงเชียร์จากผู้เข้าฟังการปราศรัย แต่ที่บริเวณด้านนอกหอประชุม กลุ่มที่ประท้วงต่อต้านนายทรัมป์ได้ปะทะกับตำรวจหลังการปราศรัยสิ้นสุดลง ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายการประท้วง มีคนบาดเจ็บ 56 คน หลังกลุ่มผู้ประท้วงขว้างขวดน้ำและก้อนหินใส่ตำรวจ ตำรวจจับกุมผู้ประท้วง 4 คน แต่ต่อมาสถานการณ์คลี่คลายลงไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงมากไปกว่านั้น
ทีมต่างประเทศ
CR:BBC