หลังจากที่ศาล จ.ขอนแก่น นัดสอบคำให้การจำเลยในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว , น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน , น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ , น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนท์ และนายวศิน นามพรม ในความผิดร่วมกันก่อเหตุฆ่าน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือแอ๋ม โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ,ร่วมกันลักทรัพย์,ร่วมกันกักขังหน่วยเหนี่ยว และ ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ขณะที่น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือเสพสารเสพติด ขณะที่ น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ ถูกตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ เพียงข้อหาเดียว นายธนัญชัย วงษ์ซ้าย ทนายความ กล่าวว่าจะยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาทต่อศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อประกันตัวน.ส.จิดารัตน์ ที่ถูกตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและทนายความมีหลักฐานในการยื่นเรื่องขอประกันตัวเช่นกัน
ด้านนายนพดล สีดาทัน ทนายความของ นางสาวพิชชาภา คำเพิงใจ มารดาของนางสาววริศรา ขอเป็นโจทก์ร่วมฟ้องในคดีนี้ พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทน 10 ล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 44/1 ค่าสินไหมจากการละเมิด ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นายนพดล เปิดเผยว่า ได้อ่านคำฟ้อง ที่พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องครบถ้วนทุกข้อหา แต่หากฝ่ายจำเลย จะยื่นขอประกันตัว ก็จะยื่นขอคัดค้านการประกันตัวตามสิทธิ์ของผู้เสียหาย เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และพฤติกรรมของคดีค่อนข้างรุนแรง จากการอ่านคำฟ้อง พบว่า จำเลยทุกคนปฏิเสธข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คือ มาตรา 288 และ 289 รับสารภาพเพียงข้อหา ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ แม้ว่าในชั้นพนักงานสอบสวน นางสาวปรียานุช จะรับสารภาพ แต่ในชั้นศาลให้การปฏิเสธข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
แฟ้มภาพ