ปชป. เรียกร้องปรับปรุงการให้บริการรถเมล์ แทนปรับเส้นทาง

กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินรถเมล์ใหม่

นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดให้ประชาชนได้ร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนผ่านช่องทางต่างๆ พบว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุเกิดความสับสน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อการเดินรถที่เพิ่มทั้งตัวเลข และตัวอักษรภาษาอังกฤษ  จึงเสนอให้ใช้สัญลักษณ์เป็นสีแล้วใช้ตัวเลขเดิม  อีกทั้งการแบ่งสายรถเมล์ให้มีระยะทางการเดินรถสั้นลง คือการเพิ่มภาระให้กับประชาชนที่จะต้องใช้บริการรถเมล์หลายต่อกว่าจะถึงที่หมาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเอื้อประโยชน์กับฝ่ายใดหรือไม่ จึงขอให้ยกเลิกการดำเนินการ ขณะเดียวกันเสนอให้ปฏิรูปในการบริการ ไม่ให้ประชาชนต้องรอรถเมล์นาน และมีรถเมล์ให้บริการเพียงพอจะดีกว่า 

นายราเมศ ยังกล่าวถึงการตัดสินคดีปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ โดยยืนยันว่าได้ดำเนินการตามกระบวนยุติธรรมอย่างเต็มที่ และขอให้กำลังใจอัยการซึ่งเป็นทนายของแผ่นดินทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ประชาชนรอฟังผลและเคารพกฎหมาย เคารพอำนาจตุลาการ  ซึ่งในวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะถูกตัดสินให้จำคุกหรือไม่ แต่ก็ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข 

ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้พิจารณาคดีสลายการชุมนุมสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี  มาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดย ป.ป.ช ได้ วินิจฉัย ว่า นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไม่ได้ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงถือว่าคดีนี้ไม่สามารถหยิบยกมาพิจารณาซ้ำได้อีก เพราะถือว่าได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งการที่นายณัฐวุฒิออกมาเรียกร้องเป็นเพียงการหวังผลทางการเมืองเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ตนเองจะยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ ในกรณียุยงให้มีการล้มการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่พัทยา ด้วยเช่นกัน

 

..

ผสข.ปิยะธฺดา เพชรดี