การลงนามในสัญญาการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท Lithium Americas Corp. (LAC) เพื่อพัฒนาเหมืองแร่ลิเทียมที่ประเทศอาร์เจนตินา ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจพลังงานสีเขียวของบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทบางจากฯให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบการกักเก็บพลังงาน ในรูปแบบของแบตเตอร์รี่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีแร่ลิเทียมเป็นธาตุหลักที่สำคัญต่อการพัฒนาด้วยโลหะที่เบาที่สุดในตารางธาตุ และมีความสามารถเก็บประจุได้เป็นเวลานานกว่าแบตเตอรี่จากธาตุอื่นๆ
ขณะนี้ราคาของแร่ลิเทียมในการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวได้ขยับขึ้นมากกว่า4เท่าตัว คาดว่าในปี2568จะมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ5เท่า เพื่อรองรับการเติบโตของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากในปี2583จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ถึง20ล้านคัน ขณะที่ ปริมาณแร่ลิเทียมยังคงไม่เพียงพอ ดังนั้นบริษัทบางจากฯโดยBCP Innovation (BCPI) ที่เป็นบริษัทย่อย ได้เข้าซื้อหุ้นในLACเพิ่มทุนจำนวน 50 ล้านหุ้น ทำให้ขณะนี้มีจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ในปัจจุบันจาก 20,286,757 หุ้นเพิ่มเป็น 70,286,757หุ้น และยังจะขยายการลงทุนด้านพลังงาน สร้างโอกาสและสร้างรายได้ในธุรกิจสีเขียวต่อไป
ทั้งนี้ตามสัดส่วนการลงทุนบริษัทบางจากฯจะได้สิทธิการซื้อผลผลิตแร่ลิเทียมเป็นเวลา20ปี ซึ่งปริมาณดังกล่าวสามารถนำไปผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือได้กว่า800ล้านเครื่องหรือผลิตแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถไฟฟ้าได้กว่า150,000คัน
ด้านพลเอกณัฐติพล กนกโชติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน มีนโยบายพัฒนาด้านพลังงานให้เป็นไปตามไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการลงนามในวันนี้ก็จะสามารถเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้มีการแข่งขันทางเทคโนโลยีสู่เวทีสากลได้
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ