*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

+++พสกนิกรต่างเฝ้ารอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ตามที่ สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ไปตรวจพระวรกาย ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 1 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการดูแลพระสุขภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ วังไกลกังวล ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2556 นับเวลาได้ 1 ปีเศษ ซึ่งถึงกำหนดเวลาที่จะขอพระราชทานถวายตรวจพระวรกายอย่างละเอียด แต่เนื่องจากจะต้องใช้เครื่องมือตรวจพิเศษหลายรายการเช่นที่เคยถวายตรวจมาแล้ว คณะแพทย์ฯจึงได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปตรวจพระวรกาย ณ โรงพยาบาลศิริราช ใน วันที่ 6 สิงหาคม พุทธศักราช 2557

+++สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีหนังสือเชิญสมาชิก สนช.เข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พุทธศักราช 2557 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ในเวลาประมาณ 15.00 น. สำหรับรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากมีการแต่งตั้งสมาชิก สนช.ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้แจ้งกำหนดให้สมาชิก  สนช.ทั้งหมดมารวมตัวกันที่อาคารรัฐสภา 2 จากนั้นจะออกเดินทางโดยรถตู้ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ในเวลา 13.30 น.

+++ในการประชุมนัดแรกของสนช.ในวัน  8 สิงหาคม จะมีเพียงวาระการเลือกประธาน และรองประธาน สนช.เท่านั้น จะไม่มีการเสนอร่างข้อบังคับการประชุมปี 2557 เข้าสู่การพิจารณา และเมื่อมีการเลือกประธาน สนช.แล้วจะมีการนัดประชุม สนช.นัดที่ 2 วาระสำคัญ คือ การพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติปี 2557 ซึ่งหากที่ประชุมเห็นชอบในร่างฉบับปี 2557 แล้ว จึงจะสามารถกำหนดวันที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป

+++มีรายงานว่า พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย  สนช. มีแนวโน้มจะหลุดจากตำแหน่ง สนช. เนื่องจากขาดคุณสมบัติการเป็น สนช. ตามรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว มาตรา 8 (4) ว่าด้วยการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจาก พล.ต.อินทรัตน์ เคยดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) และภายหลัง ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ทำให้กรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี พร้อมกับพรรคชาติไทย พรรคพลังประชาชน จึงจัดอยู่ในกลุ่มบ้านเลขที่ 109

+++ส่วนเรื่องการปฎิรูปประเทศ  ในวันที่ 9 ส.ค. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะนัดทุกฝ่ายมาคุยกันเรื่องการเดินหน้าปฎิรูปประเทศ ด้วยการเดินหน้าสรรหาสมาชิกสภาปฎิรูปประเทศ (สปช.) พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) กล่าวว่า เชิญทุกภาคส่วน หัวหน้าพรรคการเมือง แกนนำกลุ่มการเมืองทุกฝ่าย โดยให้ผู้เข้าร่วมรับฟังได้ 1,500 คน หัวหน้า คสช.จะปาฐกถาถึงความตั้งใจและแนวทางการจัดตั้ง สปช. ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช. จะกล่าวถึง พ.ร.ฎ.การจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพูดถึงรายละเอียดการรับสมัคร กระบวนการคัดสรร พื้นที่ จำนวน และระยะเวลา

+++ขณะที่ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า จะเริ่มกระบวนการสรรหา สปช. ระหว่างวันที่ 14 สิงหาคม-2 กันยายน หลังจากหน่วยงานต่างๆ เสนอชื่อบุคคลมายัง กกต.แล้ว กกต.จะทยอยส่งรายชื่อให้หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติทันทีโดยไม่รอให้ได้รายชื่อครบก่อน หลังจากตรวจสอบแล้ว กกต.จะส่งรายชื่อให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาทั้งหมด โดยไม่มีการตัดรายชื่อบุคคลใดออก แม้ว่าจะพบขาดคุณสมบัติ แต่จะทำหมายเหตุแนบท้ายไปเพื่อประกอบการพิจารณาและตัดสินใจ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของสปช.ทั้ง 250 คน คล้ายกับผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ว. แต่ได้เพิ่มความผิดเกี่ยวกับการพนันเข้ามาด้วย ถือเป็นเรื่องใหม่ของการสรรหาในครั้งนี้

+++ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจากหลายภาคส่วนที่จะเสนอชื่อบุคคลเป็นสปช. ทั้งในสัดส่วนของแต่ละจังหวัดและหน่วยงานนิติบุคคล

+++การเปิดรับสมัครผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) คณะผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน มีผู้มาสมัครเพื่อรับการสรรหาเป็น คตง.จำนวน 5 คน ได้แก่ นายภิรมย์ สิมะเสถียร กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม นายภาส ภาสสัทธา อดีตรองเลขานุการกรรมการ ป.ป.ช. พล.อ.สุริยัณห์ ป้อมเปิ้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการกองทัพไทย น.ส.สุนันท์ จำรูญพานิชย์กุล ข้าราชการบำนาญ และนายวชิร สงบพันธ์ อดีตรองเลขาธิการ ป.ป.ช. และมีผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ว่าการ คตง. 2 คน คือ นายศิริพงษ์ วีระแสงพงษ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และน.ส.ประพีร์ อังกินันทน์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาการแทนผู้ว่าตรวจเงินแผ่นดิน และจะเปิดรับสมัครจนถึงวันนี้

+++วันนี้ ศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยฐานผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กรณีรับรองเอกสารในฐานะกรรมการบริษัทอันเป็นเท็จเพื่อให้บริษัทที่ตัวเองถือหุ้นกู้เงินกับธนาคารกรุงไทย 1,078 ล้านบาท ศาลชั้นต้นได้คำพิพากษาลงโทษจำคุก 17 กระทง กระทงละ 5 ปีรวมจำคุก 85 ปี แต่จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง แต่ตามกฎหมายลงโทษสูงสุดได้ไม่เกิน 20 ปี

+++วันนี้มีความเคลื่อนไหวของหลายหน่วยงานเรื่องการอุ้มบุญ คสช.หารือตัวแทนของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่องข้อกฎหมายอุ้มบุญ รวมทั้งรายงานความคืบหน้า กรณีต่างชาติหลอกให้คนไทยอุ้มบุญ

+++ ขณะที่ วันนี้ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า จะมีการแถลงด้วย เรื่องการตรวจจับคลินิก รับทำอุ้มบุญย่านเพชรบุรีตัดใหม่ และกรณีการช่วยเด็กอุ้มบุญ9 คน ที่ย่านลาดพร้าว เข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภา เบื้องต้นเชื่อว่าครั้งนี้จะมีการลงโทษเอาผิดแพทย์จากกรณีการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เป็นรายแรก โดยเมื่อแพทยสภาได้รับรายชื่อแพทย์ที่เข้าข่ายกระทำความผิดจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)แล้วจะนำเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการจริยธรรม จะมีการไต่สวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ากระทำผิดจริงจะมีโทษสูงสุดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ส่วนหญิงที่รับอุ้มบุญ ยังไม่มีกฎหมายใดกำหนด ดังนั้น เห็นด้วยและสนับสนุนให้มีการออกพรบ.การตั้งครรภ์โดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. ซึ่งมีการยกร่างไว้ตั้งแต่ปี 2551 โดยพรบ.นี้จะทำให้สามารถเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำอุ้มบุญทั้งหมดตั้งแต่หญิงรับทำอุ้มบุญ เอเจนซี่และส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ไม่เฉพาะแพทย์ที่ผิดตามข้อบังคับแพทยสภาที่มีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น

+++พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เตรียมนำดีเอ็นเอเด็กทั้ง 9 คน ไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นลูกของชายชาวญี่ปุ่นเจ้าของคอนโด ในซอยลาดพร้าว 130 อยู่ระหว่างประสานเข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ และหากพบว่าเป็นพ่อเด็กจริงต้องตรวจสอบว่า เหตุใดจึงต้องการมีลูกจำนวนมาก พร้อมสอบปากคำพี่เลี้ยงเด็กทั้ง 7 คน รวมถึงพยานปากสำคัญ คือ สตรีที่ตั้งครรภ์ 6 เดือน