ผู้ป่วยซาอุฯที่ต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลาเสียชีวิตแล้ว ส่วนสเปนเตรียมส่งเครื่องบินพิเศษรับผู้ป่วยชาวสเปนกลับบ้าน

กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า ชายชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลาเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย ที่โรงพยาบาลเมืองเจดดาห์ ซึ่งหมายความว่า เขาเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคนี้คนแรกที่เสียชีวิตนอกพื้นที่แอฟริกา ซึ่งในปีนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 923 ศพ ในเขตแอฟริกาตะวันตก ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไลบีเรีย โดยไวรัสอีโบล่าเป็นชนิดหนึ่งจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งติดต่อผ่านสารคัดหลั่ง ทั้งเป็นหนึ่งในโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือร้อยละ 90 ของผู้ป่วย

สำหรับผู้เสียชีวิตรายล่าสุดนี้ มีอายุ 40 ปีประวัติเดินทางไปเซียร์ร่า ลีโอนหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาด ส่วนผู้ป่วยชายอีกคนที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลไซนาย ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาเมื่อวันจันทร์ ผลการทดสอบไม่พบว่าติดเชื้ออีโบลา ขณะที่แพทย์อเมริกันกับมิชชั่นนารีอเมริกันที่ถูกส่งตัวกลับมารับการรักษาที่สหรัฐอเมริกา มีอาการดีขึ้น และรัฐบาลสเปนเตรียมส่งเครื่องบินพิเศษไปไลบีเรียเพื่อรับตัวนางมิเกล ปาฆาเรส มิชชั่นนารีอายุ 75 ปีซึ่งติดเชื้ออีโบลา กลับมารักษาพยาบาลที่บ้านเกิด

ด้านผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก ร่วมการหารือเป็นเวลา 2 วันที่กรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ เพื่อหาทางยับยั้งการแพร่ระบาด และตัดสินใจว่าจะประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วโลกหรือไม่ เนื่องจากพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นที่ไนจีเรีย ทั้งพยาบาลคนหนึ่งที่ดูแลผู้ป่วยก็เสียชีวิตเป็นคนที่ 2 ของประเทศนี้ ทำให้รัฐมนตรีสาธารณสุขไนจีเรีย กล่าวว่า สถานการณ์โรคระบาดที่ไนจีเรีย คือสถานการณ์ฉุกเฉินของประเทศ และทุกคนในโลกล้วนอยู่ในความเสี่ยง

ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ประเทศกินี ไลบีเรีย และเซียร์รา ลีโอน พบผู้ป่วยอีโบลารายใหม่ 108 คน ทำให้จำนวนผู้ป่วยตั้งแต่ต้นปีมีจำนวน 1,711 คน ซึ่งในส่วนของไนจีเรีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 คนที่เมืองลากอส เมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแอฟริกาใต้ทะเลทรายซาฮารา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 7 คน 

...F163...