รมว.กลาโหม เผยกลุ่มปล้นรถที่สงขลาเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นเก่า/นครบาล ประชุมรับมือ25ส.ค./ร.ร.บนเกาะกวมเปิดเรียนหลังสถานการณ์ดีขึ้น

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุคนร้ายขโมยรถแล้วนำไปประกอบระเบิดก่อเหตุที่จังหวัดสงขลา ถือว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ยังเหลือรถคนร้ายที่ยังติดตามกันอยู่ พื้นที่สงขลาเป็นพื้นที่ใหญ่และกว้าง อย่าไปมองเรื่องช่องโหว่ ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ หลังเกิดเหตุ สามารถระบุได้ 4 คนว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นเก่า  เจ้าหน้าที่ มีมาตรการป้องกันควบคุมพื้นที่จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จนก่อเหตุไม่ได้ จึงไปก่อเหตุที่สงขลา ต้องชมเชยเจ้าหน้าที่เพราะหากจับไม่ได้ อาจนำไปสู่การก่อเหตุการณ์ครั้งใหญ่ก็ได้

+++ขณะที่พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การก่อเหตุเมื่อวาน เป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มเดิม ซึ่งที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าอาจใช้ยุทธวิธีขโมยรถก่อเหตุบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าผู้ก่อความไม่สงบพยายามเปลี่ยนยุทธวิธีการก่อเหตุไปเรื่อย ๆ ซึ่งได้เน้นย้ำฝ่ายกองกำลัง ให้ระวังกรณีการก่อเหตุใหม่ ๆ ไม่ใช่ระวังแต่แบบเดิม ๆ  กรณีนี้แสดงถึงความร่วมมือและการทำงานอย่างรวดเร็วของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุสามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว การประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกภาคส่วน และความร่วมมือจากประชาชน และผู้นำศาสนา ต้องขออภัยที่มีช่องโหว่ ช่องว่าง ทำให้ผู้ร้ายก่อเหตุได้  แต่ขอให้ประชาชนเข้าใจและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงาน รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในประเทศอย่างเต็มที่

+++เจ้าหน้าที่รับผิดชอบในสังกัดหน่วยงาน ด้านความมั่นคง ประกอบด้วย สภาความมั่นแห่งชาติ ทหาร กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจสันติบาล ได้มีการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงที่มีการอ่านคำพิพากษาตัดสินคดีจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 สิงหาคม เพื่อการประเมินกลุ่มมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อการดูแลความปลอดภัย และรวบรวมการข่าวบุคคลที่ 3 ที่อาจเข้ามาสร้างความวุ่นวายได้   พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่ได้สั่งสกัดกั้นมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลัง น.ส. ยิ่งลักษณ์  โดยอยากให้ประชาชนให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ภายในบ้านพัก หรือติดตามการอ่านคำพิพากษาทางโทรทัศน์ รับข่าวสารผ่านช่องทางอื่น เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยกระทำได้ง่าย หากมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ในวันตัดสินคดีอาจเสี่ยงต่อการเกิดความวุ่นวาย แล้วอาจมีบุคคลที่ 3 ที่ไม่หวังดี เข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นได้   

+++กรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน ที่ถูกมองว่าเป็นบุคคลหน้าเดิมจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า คนทำงานมีอยู่ไม่มากและเป็นคนที่รู้จักกันหมด แต่ทุกคนเป็นคนที่ทำงานได้ ซึ่งในการพิจารณาได้เปิดโอกาสให้มีการเสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เพื่อส่งต่อให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ โดยไม่ปิดกั้นผู้ที่คิดต่างจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่พบว่าไม่มีการเสนอรายชื่อเข้ามา และในการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่จะประกาศรายชื่อในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จะใช้ระบบนี้เช่นกัน กรรมการชุดนี้จะได้เบี้ยประชุมครั้งละ 6,000 บาท ซึ่งจะประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เดือนหนึ่ง 4 สัปดาห์ เป็นเงิน 24,000 บาท

+++คดีอาชญากรรม ช่วงบ่ายนี้ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะลงพื้นที่สน.ประเวศ ติดตามคดีหลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์นิติเวช เข้าตรวจสอบสภาพศพหญิงสาวเสียชีวิตปริศนาภายในบ่อพักน้ำ ใต้สะพานข้ามคลองวัดกระทุ่มเสือปลา เขตประเวศ สภาพศพมีบาดแผลจากการถูกแทงที่ลำตัว 3 แผล และพบรอยปาดบริเวณคอ 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 วัน เจ้าหน้าที่เตรียมส่งไปชันสูตรศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

+++ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิต ยืนยันกับร้อยเวร สน.ประเวศ ว่าศพหญิงคนดังกล่าวคือ นางสาวทูน อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา เมื่อคืนนี้มีคนตกปลาอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุพบศพและจำได้ว่าเป็นญาติของตัวเอง โดยผู้เสียชีวิตปัจจุบันได้แยกออกไปอาศัยตามลำพัง ไม่ได้อยู่กับครอบครัว ครั้งสุดท้ายมีผู้พบอยู่กับชายชาวเมียนมา ก่อนที่จะหายตัวไป เบื้องต้นตำรวจได้นำตัวพยานที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าจะทราบเบาะแสของผู้เสียชีวิต รวมถึงญาติของนางสาวทูน ไปสอบปากคำที่ สน.ประเวศ เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีนี้ต่อไป

+++ส่วนความคืบหน้าเรื่องนักศึกษาสองสถาบันย่านปทุมวันก่อเหตุทะเลาะวิวาทและแทงกัน มีผู้เสียชีวิต วันนี้ มือแทงอีกคนเข้ามอบตัวที่สน.ปทุมวัน  โดย ผบช.น. รับมอบตัวคนร้ายเอง

+++ ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงบ่ายนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมเหตุรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้

+++โรงเรียนรัฐบาลทั้ง 41 แห่งบนเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ กลับมาเปิดเรียนวันแรกวันนี้ หลังนักเรียนราว 30,000 คนหยุดพักผ่อนในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

+++เจ้าหน้าที่ศึกษาธิการบนเกาะกวม กล่าวว่า ทางการได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในหลายๆ ด้านแล้ว ส่วนสิ่งที่น่าวิตกกังวลหลักๆ ในขณะนี้คือ การช่วยบรรดาผู้ปกครองและครูพูดคุยกับนักเรียน เพื่อช่วยบรรเทาความเครียด หลังเกาหลีเหนือขู่ยิงขีปนาวุธโจมตี ล่าสุดเกาหลีเหนือได้มีการเผยรายละเอียดแผนการทดสอบขีปนาวุธบริเวณน่านน้ำใกล้กับเกาะกวม ขณะที่สื่อของทางการรายงานว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กำลังดูท่าทีของสหรัฐฯ ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งการทดสอบยิงขีปนาวุธ

+++ด้านประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ยืนยันว่า จะไม่มีสงครามคาบสมุทรเกาหลีเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน และว่า กำลังพิจารณาส่งผู้แทนทางการทูตไปยังเกาหลีเหนือ เพื่อเจรจาหาทางออกจากวิกฤตในครั้งนี้

+++ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ละฝ่ายจึงควรลดการยั่วยุและหันหน้ามาใช้วิธีการทางการทูตแก้ปัญหาแทน ประชาคมโลกต้องช่วยกันส่งสารไปยังเกาหลีเหนือให้ปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เปิดการสื่อสาร และช่วยลดความขัดแย้ง

แฟ้มภาพ