ขนส่ง ลงตรวจที่สุวรรณภูมิพบรถแท็กซี่ -รถบัส ทำผิดทั้งเรื่องตัวรถและการแต่งกาย

การตรวจรถโดยสารสาธารณะที่ขับเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้าวันนี้ของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก นายสิรภพ มิ่งชื่น เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการ กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจการ เปิดเผยว่า วันนี้ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยรถโดยสารสาธารณะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถโดยสารไม่ประจำทาง(รถบัส) รถตู้ไม่ประจำทาง ในส่วนของรถแท็กซี่จะเน้นตรวจการจดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะหรือรถป้ายเหลือง ,การต่อภาษีประจำปี,การเข้าตรวจมาตรมิเตอร์ อุปกรณ์ส่วนควบ เช่น กระจกข้าง ยางรถ,การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ,สภาพอายุการใช้งาน ห้ามนำรถที่ใช้งานเกิน 12 ปี มาขับให้บริการ หากเจ้าหน้าที่พบ ก็จะยึดป้ายทะเบียน เพื่อให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนประเภทเป็นรถส่วนบุคคลที่กรมการขนส่งทางบกก่อน รวมถึงตรวจการแสดงบัตรประจำตัว การพกใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และการแต่งกายของผู้ขับขี่ ด้วย

การแต่งกายที่ถูกต้อง ผู้ขับขี่จะต้องสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าไม่มีลวดลาย สอดชายเสื้อไว้ในกางเกงสีสุภาพ รองเท้าสีดำหุ้มส้น ส่วนรถบัสและรถตู้โดยสารไม่ประจำทางที่เข้ามารับ-ส่งนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะตรวจคล้ายๆกับรถแท็กซี่ แต่จะดูเพิ่มในเรื่องของจำนวนเบาะที่นั่งที่จดทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบกว่าตรงกับหรือไม่ ประตูทางออกฉุกเฉินมีสิ่งของกีดขวางทางหรือไม่

จากการลงพื้นที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบมีรถแท็กซี่กระทำผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ แต่งกายไม่สุภาพ1ราย เปลี่ยนขนาดล้อรถ 1ราย รถไม่จดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ1ราย แผ่นป้ายทะเบียนลบเลือน1รายไม่ชำระภาษีและตรวจรอบมิเตอร์1รายส่วนรถบัสกระทำผิดตามพระราชบัญญัติขนส่ง ไม่จดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ1ราย

นอกจากนี้ ยังมีจุดที่ให้บริการรถโดยสารสาธารณะอีก2แห่งคือ บริเวณชั้น 1 ของอาคารผู้โดยสาร เป็นจุดที่รถแท็กซี่ทุกคัน มีการลงทะเบียนทำประวัติไว้กับการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว โดยรถแท็กซี่จะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ผู้ขับขี่ต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี  และบริเวณสถานีให้บริการรถประจำทาง เป็นจุดให้บริการของรถตู้โดยสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจะเน้นตรวจการปรับลดจำนวนที่นั่งผู้โดยสารต้องไม่เกิน 13 ที่นั่ง  และให้ช่วงท้ายรถเป็นทางออกฉุกเฉิน เพื่อผู้โดยสารจะสามารถเคลื่อนย้ายตัวได้ง่าย หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ผู้สื่อข่าว: ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ