ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามยุบสภาที่ปรึกษา 2 ชุด หลังจากที่ผู้บริหารหรือซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นสมาชิกของสภาฯ ทยอยลาออกเพราะไม่พอใจถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ไม่ได้กล่าวโทษกลุ่มชาตินิยมผิวขาวในเหตุรุนแรงที่เมืองชาร์ล็อตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย
สำหรับเหตุการณ์ซึ่งเริ่มขึ้นจากการที่เมืองชาร์ล็อตต์วิลล์ต้องการย้ายอนุสาวรีย์ผู้นำกองทัพฝ่ายใต้ในสงครามกลางเมือง เพราะเห็นว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเหยียดเชื้อชาติ แต่ผู้ที่ไม่ต้องการให้ย้ายออกไปเห็นว่า เป็นความพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ และกลายเป็นการปะทะกันเมื่อกลุ่มเรียกร้องความเสมอภาคเข้ามาร่วมในกลุ่มสนับสนุนการย้ายอนุสาวรีย์ ส่วนกลุ่มชาตินิยมเหยียดผิวเข้ามาสนับสนุนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการย้ายอนุสาวรีย์ เหตุรุนแรงมากขึ้นเมื่อคนร้ายที่เป็นผู้มีแนวคิดสนับสนุนนีโอ-นาซี ขับรถยนต์พุ่งชนกลุ่มผู้เดินขบวน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 19 คน ซึ่งประธานาธิบดีเห็นว่า เหตุรุนแรงนี้เกิดขึ้นก็เพราะผู้ชุมนุมของทั้ง 2 ฝายต่างก็ใช้ความรุนแรงตอบโต้กัน ทำให้นักการเมืองรีพับลิกันหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงนี้เพราะกลุ่มชาตินิยมอย่างนีโอ-นาซี และคลูคลักแคน เป็นกลุ่มอาชญากรที่แสดงออกด้วยความเกลียดชังและการใช้ความรุนแรง ทำให้กลายมาเป็นประเด็นที่มีการโต้แย้งมากที่สุดหลังจากที่เขาอยู่ในตำแหน่งมานาน 7 เดือน โดยตั้งแต่วันจันทร์ กลุ่มซีอีโอที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรม และสภายุทธศาสตร์ และกลยุทธ์ ได้ทยอยยื่นหนังสือลาออก ไม่ว่าจะเป็นอินเทล คอปส์, เมิร์ก แอน โค อิงค์, อันเดอร์ อาร์เมอร์ อิงค์ และเมื่อซีอีโอของ3เอ็ม, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, และยูไนเต็ด เทคโนโลยี ยื่นหนังสือลาออก ประธานาธิบดีก็ลงนามคำสั่งยุบสภาที่ปรึกษาทั้ง 2 คณะ