รองนายกฯ แจงกรอบการทำงานคุณสมบัติคณะกก.ปฎิรูป11ด้าน ยกร่างให้เสร็จเม.ย.61

16 สิงหาคม 2560, 15:31น.


กรณีการจัดตั้ง สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ พร้อมยืนยันว่าไม่ซ้ำซ้อนกับกรมทรัพยากรน้ำ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อมาอยู่ภายใต้สังกัดนายกรัฐมนตรีนายวิษณุ กล่าวถึง การแต่งตั้งคณะกรรมการปฎิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านว่าในส่วนการประชุมของคณะทำงานดังกล่าว ไม่จำเป็นจะต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกครั้ง หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน แต่ให้รายงานเลขาสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นอกจากนี้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านมีอำนาจเรียกบุคคลใดก็ได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมหากเห็นว่าจะสามารถทำให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินงานได้  ทั้งนี้ ปฏิเสธว่ารายชื่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านที่แต่งตั้งเมื่อวานนี้ ไม่ได้มาจากสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ(สปท.) เดิมทั้งหมด เพราะมีโควต้ากำหนดไว้ชัดเจน เนื่องจากคนที่ถูกคัดเลือกเข้ามา เพราะเข้าประชุมอย่างสม่ำเสมอและมีการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม  และหากคณะกรรมการชุดนี้ต้องการจะมาเป็น ส.ว.จะต้องลาออกก่อน แต่ไม่มีเงื่อนไขว่าจะต้องลาออกก่อนกี่วันตามรัฐธรรมนูญ เพราะส.ว.ไม่สามารถเข้าไปดำรงตำแหน่งของรัฐได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการทำงานของคณะทำงานปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน จะนำไปใช้ได้จริงมากกว่า ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และ สปท. หรือไม่ แต่ตามกฎหมายได้ระบุหน้าที่ไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าจะต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่รัฐธรรมนูญกำหนด และไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยกรอบระยะเวลาคาดว่า จะเป็นรูปธรรมใน 1 ปี และต้องรายงานผลทุก 1 ปีจนครบ 5 ปี



นายวิษณุ กล่าวถึง การทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านว่า มีหน้าที่ยกร่างปฏิรูปประเทศให้เสร็จ ภายใน8 เดือน และคาดว่าภายในเดือนเมษายน 2561 จะสามารถประกาศใช้ได้ หลังจากนั้นจะมีหน้าที่ติดตามฝ่ายบริหารตุลาการว่าดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศหรือไม่ หากคณะกรรมการชุดไหนมีหน้าที่ ในส่วนที่ได้รับมอบหมายอย่างเช่นการแก้กฎหมาย ก็จะต้องเป็นผู้ดำเนินการ เพราะในแผนปฏิรูปมีการระบุหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน หากพบว่าหน่วยงานใดไม่ ปฏิบัติตามแผน ก็สามารถตักเตือน แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็จะสามารถรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ รวมไปถึงคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อใช้มาตรการตามกฎหมายยืนยันว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีภารกิจที่ต้องดำเนินการทุกวัน ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลสามารถเปลี่ยนตัวคณะกรรมการได้หากพบว่า บกพร่องต่อหน้าที่



นายวิษณุ กล่าวถึง บทลงโทษหน่วยงานที่ไม่ปฎิบัติตาม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการ สามารถตักเตือน ออกประกาศแจ้งให้สังคมทราบ หรือใช้มาตรการ เพื่อดำเนินการแจ้งไปยังรัฐสภาหรือส่งต่อเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) เพื่อ ให้พิจารณาดำเนินการ พร้อมยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวไม่สามารถนำไปใช้กลั่นแกล้งหน่วยงานหรือบุคคลใดได้ง่ายๆ  นายวิษณุ ระบุด้วยว่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ไม่จำเป็นจะต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช 



ส่วนการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าทางรัฐสภามีการส่งมาให้รัฐบาล พิจารณาหรือยัง นายวิษณุระบุว่า เท่าที่รับทราบมีส่งมาเพียง 2 ฉบับ และยังไม่ได้รับรายงานว่ามีกฎหมายลูกลงมาที่รัฐบาลถึง 4 ฉบับตามที่เป็นข่าวดังนั้นขอให้สอบถามที่เลขาคณะรัฐมนตรี



ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม 



 

ข่าวทั้งหมด

X