+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบในหลักการให้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปด้านต่างๆ รวม 11 ด้าน รวม120 คน ดำรงตำแหน่ง คราวละ 5 ปี เหลืออีก 45 คน จะได้พิจารณาแต่งตั้งต่อไป คณะกรรมการทั้ง 11 คณะ จะประชุมยกร่างแผนการปฏิรูปในด้านต่างๆ จากนั้นจะนำแผนของแต่ละคณะมารวมกันเพื่อกำหนดเป็นแผนปฏิรูประดับชาติ คาดว่า แผนการปฏิรูประดับชาติจะใช้เวลา 8 เดือน ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2561
+++คณะกรรมการปฏิรูปด้านต่างๆ ประกอบด้วย 1.ด้านการเมือง อาทิ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิททยาลัยธรรมศาสตร์ นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตประธานสภาพัฒนาการเมือง นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) 2.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน อาทิ นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพลเรือน นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย (จำกัด) มหาชน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายถวิล เปลี่ยนศรี 3.ด้านกฎหมาย อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีต สปท. 4.ด้านกระบวนการยุติธรรม อาทิ นายอัชพร จารุจินดา อดีตเลขาฯ กฤษฎีกา คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผู้ว่าฯกทม. 5.ด้านเศรษฐกิจ อาทิ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตประธาน กลต. 6.ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน นายธีรพัฒน์ ประยูรสิทธิ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
+++7.ด้านสาธารณสุข อาทิ นพ.เสรี ตู้จินดา อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข 8.ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ นายเสรี วงษ์มณฑา 9.ด้านสังคม อาทิ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ นายวิเชียร ชลวิต อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 10.ด้านพลังงาน นายพรชัย รุจิประภา อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายดุสิต เครืองาม อดีต สปท. น้องชายนายวิษณุ รองนายกฯ และ 11.ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ อดีตประธาน ป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก อดีต ป.ป.ช. นายเจษฎ์ โทณวณิก นักวิชาการ นายวิชา มหาคุณ อดีต ป.ป.ช. นายอนุสิษฐ คุณากร อดีต ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
+++พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์ กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีคำพิพากษาตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในวันที่ 25 ส.ค. พล.อ.เฉลิมชัย เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเองให้เกิดความสงบเรียบร้อย ควบคู่กับการเดินหน้าทำความเข้าใจกับประชาชน หน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้เป็นห่วงถึงจำนวนคนที่จะมาให้กำลังใจ แต่ห่วงมือที่สาม จะมาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายโดยเฉพาะตัวบุคคล
+++การดูแลพื้นที่บริเวณหน้าศาลฎีกาฯ จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบหลัก พร้อมส่งกำลังดูแลอารักขาบ้านพักของคณะตุลาการฎีกาทั้ง 9 คน ทั้งก่อนจะมีคำตัดสินและหลังคำตัดสินไปแล้ว เบื้องต้นจะยังคงใช้แผนกรกฎ 52 สัปดาห์หน้า พล.อ.เฉลิมชัย จะเรียกหน่วยงานความมั่นคง ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
+++เรื่องระบบขนส่งมวลชน วาระสำคัญในการเตรียมเสนอที่ประชุมครม.สัญจร ในวันที่ 22 ส.ค. ที่จ.นครราชสีมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติ คือร่างสัญญาฉบับที่ 2.1 สัญญางานออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เส้นทางกรุงเทพฯนครราชสีมา ระยะทาง 253 กม.วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท รวมถึงการรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา และจะขอค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติม 500 ล้านบาทด้วย
+++ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 20 ที่ประเทศไทย โดยจะมีการสรุปเกี่ยวกับร่างสัญญา 2.1 ขณะเดียวกันจะหารือร่างสัญญา 2.2 งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธาด้วย ซึ่งจะพยายามให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
+++เมื่อวานนี้ เป็นวันแรกทดลองเดินรถเมล์ที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ ใน 8 เส้นทาง ตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(ขสมก.) กล่าวว่า วันแรกผู้โดยสารส่วนใหญ่ ไม่ชินกับเส้นทางใหม่จึงสอบถามแนวเส้นทางที่ตนเองจะเดินทาง เพราะยังเป็นช่วงแรกที่เปิดทดลองเดินรถ รวมทั้งบางคนแสดงความคิดเห็นเรื่องสายรถเมล์บ้าง ส่วนจำนวนผู้โดยสารมีใช้บริการขึ้นลงเรื่อย ๆ คาดว่าคงใช้เวลาสักพักเพื่อให้ผู้โดยสารได้ปรับตัว ทั้งนี้ยังไม่มีการปรับแผนการเดินรถ แต่จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้มากขึ้น ให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร ช่วยบอกแนวเส้นทางที่ผ่าน แจกแผ่นพับ รายละเอียดทั้ง8 เส้นทาง หวังว่าจะครอบคลุมมากขึ้น
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด เดือนกันยายน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 47.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 50.80 ดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งค่าสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 5.28 จุด ปิดที่ 21,998.99 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.23 จุด ปิดที่ 2,464.61 จุด แนสแดค ลดลง 7.22 จุด ปิดที่ 6,333.01 จุด
+++ราคาทองคำ ดิ่งลงวันเดียวหนักสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ หลังข้อมูลค้าปลีกและการผลิตของสหรัฐฯออกมาดีเกินคาดหมาย และคลายกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,279.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++ความคืบหน้าการติดตามแก๊งอุ้มรีดนักธุรกิจชาวสิงค์โปร์ ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คน นายอุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ และนายฐิติกร ชื่นอุรา ที่ยังหลบหนี ล่าสุด เจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัวนายอุทิศได้แล้ว และควบคุมตัวเพื่อรอสอบปากคำในวันนี้ ที่สน.โคกคราม โดยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.จะสอบปากคำเอง ที่สน.โคกคราม
+++ส่วนอีกคดี ฆ่า 3 ศพฝังดินกลางทุ่งนา ที่จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตำรวจคุมคนร้ายมาสอบปากคำ คือนายกริษณ์ นิ่มน้อย หรือ แจ๊ว อายุ 46 ปี และ นายจรัญ สังข์วิเศษ หรือเอ๋ อายุ 40 ปี ซึงเป็นคนในชุมชนเดียวผู้กลุ่มผู้เสียชีวิต ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายทั้ง 3 ศพ นายจรัญ รับสารภาพว่าได้นัดทั้ง 3 คนออกมาที่กระท่อมกลางทุ่งนาจริง และนายกริษณ์ ซึ่งเป็นขาใหญ่ ในวงการค้ายาเสพติดในตำบล และเคยถูกต้องโทษในคดียาเสพติดและคดีปล้นฆ่า ที่เรือนจำคลองไผ่ ปัจจุบันพ้นโทษออกมาแล้ว ได้คุยกับทั้ง 3 คน พร้อมแสดงความไม่มาพอใจที่ 3 คนหักหลังเรื่องยาบ้าจำนวน 2-6 พันเม็ด และเกิดการทะเลาะกันขึ้น จนนายกริษณ์ ลงมือยิงทั้ง 3 คนด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.จนเสียชีวิต และให้ช่วยนำศพลงเรือพายข้ามมาฝั่งตรงจุดที่พบศพ และทำลายหลักฐานเป็นรถจักรยานยนต์ด้วยการโยนทิ้งลงคลอง รวมถึงปืนด้วย
+++ตำรวจ เชื่อว่า มีเพื่อนในกลุ่มของนายกริษณ์ อีก 3 คน ร่วมลงมือในการฝังศพด้วย จะเร่งดำเนินการจับกุมให้ครบทั้ง 5 คน โดยทั้งหมดจะถูกตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและอำพรางซ่อนเร้นศพ
แฟ้มภาพ