ปธน.สหรัฐฯตำหนิทั้ง 2 ฝายในความรุนแรงที่เวอร์จิเนีย

16 สิงหาคม 2560, 07:07น.


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวประณามทั้ง 2 ฝ่ายที่มีส่วนร่วมให้เกิดเหตุจลาจลขึ้นที่เมืองชาร์ลอตต์วิลล์ มลรัฐเวอร์จิเนีย ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 19 คน เมื่อวันเสาร์



โดยหลังจากที่เกิดเหตุประธานาธิบดีแถลงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ตำหนิทั้ง 2 ฝ่ายว่าทำให้เกิดเหตุรุนแรง แต่ทำให้ฝายการเมืองตำหนิว่าประธานาธิบดีหลีกเลี่ยงกลุ่มชาตินิยมผิวขาวที่เป็นฐานเสียงสำคัญของเขา ต่อมาเขาจึงออกแถลงการณ์ตำหนิกลุ่มชาตินิยมผิวขาว แต่ล่าสุดที่นิวยอร์คเขาออกแถลงการณ์อีกครั้ง เพื่อตำหนิกลุ่มผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายที่ทำร้ายและโจมตีกลุ่มชาตินิยมเช่นกัน รวมถึงอธิบายว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ทำให้เหตุรุนแรง โดยเฉพาะคนร้ายที่ขับรถพุ่งชนกลุ่มผู้เดินขบวนที่ทำให้ตนเองและประเทศต้องอับอาย อย่างไรก็ตาม เขามีความเห็นว่าอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ทุกแห่งล้วนมีความสำคัญไม่แตกต่างกัน โดยยกตัวอย่าง อดีตประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน และโทมัส เจฟเฟอร์สัน ก็มีทาสผิวสีเช่นกัน ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์ต่อไปว่า ขณะที่ผู้นำประเทศอื่นพยายามสร้างความปรองดอง แต่ผู้นำสหรัฐกลับสร้างความแตกแยก



เหตุการณ์นี้มีจุดเริ่มต้นจากการที่สภาท้องถิ่นเมืองชาร์ลอตต์วิลล์มีมติให้ย้ายอนุสาวรีย์ โรเบิร์ต อี ลี ผู้นำกองกำลังสมาพันธรัฐ ในสงครามกลางเมืองออกไป และมีการเคลื่อนไหวคัดค้านเพราะเห็นว่าเป็นความพยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ ต่อมากลายเป็นการชุมนุมของกลุ่มชาตินิยมขวาจัดที่อ้างว่า พวกเขามาเพื่อปกป้องสิทธิพลเมือง แต่เมื่อกลุ่มคลูคลักแคน และ นีโอนาซีที่มีแนวนิยมก่อความรุนแรงเข้ามาร่วมด้วย ฝ่ายต่อต้านการเหยียดผิวจึงจัดการชุมนุมคัดค้าน และกลายเป็นการปะทะกัน 


...


 


F163
ข่าวทั้งหมด

X