นายเฟรเดริค เพลทเจน นักข่าวซีเอ็นเอ็น ซึ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรียให้ลงพื้นที่ทำข่าวจากเมืองอเล็ปโปทางภาคเหนือของซีเรียว่า เขาปีนขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงที่สุดในเมืองอเล็ปโปคือหอคอยสุเหร่าแห่งหนึ่งในบริเวณป้อมปราการโบราณกลางเมือง เพื่อชมภาพทิวทัศน์โดยรอบเมือง เขารู้สึกว่าบรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบสงัดและวังเวงอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมือง ที่เคยอยู่ในความควบคุมของฝ่ายกบฏ อาคารบ้านเรือนถูกถล่มด้วยปืนใหญ่ เหลือแต่เศษซาก ส่วนใหญ่เป็นอาคารร้าง ไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่พื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของเมืองพอจะมีเสียงอึกทึกครึกโครมจากชาวบ้านในละแวกนั้นอยู่บ้างเนื่องจากเป็นชุมชนที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลซีเรียมาตลอด 6 ปีที่เกิดสงคราม
แต่ขณะนี้ ผ่านมาแล้ว 9 เดือนนับตั้งแต่กองทัพซีเรียสามารถขับไล่ฝ่ายกบฏออกจากพื้นที่ทางตะวันออกของเมือง ควบคุมสถานการณ์ในเมืองอเล็ปโปได้ทั้งหมด สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่าเดิมคือชาวบ้านหลายพันคนที่เคยละทิ้งบ้านเรือนหลบหนีสงครามขณะนี้เริ่มทยอยเดินทางกลับมายังบ้านเรือนของพวกเขาเพื่อฟื้นฟูบูรณะบ้านเรือนและชุมชนของพวกเขาอีกครั้ง มีการจัดตั้งตลาดผักสดเล็กๆในชุมชน มีคนเอาผ้ามาปูวางของขายริมทางเท้า แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังชีพอยู่ได้เนื่องจากได้รับบริจาคสิ่งของบรรเทาทุกข์จากองค์กรการกุศล ชาวบ้านจะรีบวิ่งไปเข้าแถวทันทีที่เห็นรถบรรทุกขนมปังขององค์กรการกุศลแล่นไปแจกจ่ายขนมปัง ซึ่งประชาชนจะต้องแสดงบัตรเพื่อขอรับแจกขนมปัง ซึ่งพอจะรับประทานได้เพียงวันเดียวเท่านั้นต่อการรับแจกขนมหนึ่งครั้ง
ด้านนายอับดุล ราห์มาน ราซุค หัวหน้าหน่วยเอ็นจีโอในท้องถิ่น ซึ่งทำหน้าที่แจกจ่ายขนมปังให้กับชาวบ้านกล่าวว่า สถานการณ์สงครามในเมืองนี้ เปรียบเสมือนชีวิตของคนเราหยุดนิ่งๆ ไม่สามารถทำมาหากินได้ 6 ปีติดต่อกัน การสู้รบเพิ่งจะสงบลงเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว แต่อย่างน้อยที่สุดสถานการณ์ดีขึ้นบ้างก็ยังดีกว่าเกิดสงคราม บางท้องที่มีกระแสไฟฟ้าและประปาใช้จากการที่รัฐบาลเข้าไปจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคขึ้นใหม่เพื่อให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่การฟื้นฟูบูรณะเมืองโดยรวมถือว่าเป็นภารกิจใหญ่ที่อาจจะต้องใช้เวลานานหลายปีหลังเสียหายรุนแรงจากสงคราม อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่อาจจะต้องถูกรื้อถอนและสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด/ 20.15 น.