หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับพระราชทานวีดิทัศน์จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 แผ่นได้แก่ ตอนที่ 1 น้ำคือชีวิตแผ่นดิน /ตอนที่ 2 พิทักษ์ป่าพัฒนาสินสายน้ำ/ ตอนที่ 3 พืชพันธุ์ ปลูกชีวิตมั่นคง/ ตอนที่ 4 เศรษฐกิจพอเพียงนำทางชีวิต ซึ่งเป็นการสานต่อรักษาต่อยอด แนวทางพระราชดำริ และการพัฒนาทั้งเรื่องน้ำเรื่องป่า ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์พระบรมราชินีนาถรัชกาลที่ 9 ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับมาเพื่อสานต่อ และให้รัฐบาลได้สืบต่อเพื่อความยั่งยืนของประเทศ ซึ่งวีดิทัศน์ นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะนำเผยแพร่ทางโทรทัศน์ในเวลาหลัง 18.00 น.
ส่วนกรณีที่ กองทัพเรือออกมายอมรับว่าซื้อขีปนาวุธอาวุธปล่อยนำวิถี ฮาร์พูน ของเรือฟริกเกตนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่าเป็นงบประมาณประจำปี ของกระทรวงกลาโหม ในส่วนของกองทัพเรือ ไม่ใช่งบกลาง ซึ่งเรือฟริกเกต เป็นเรือเก่าที่จำเป็นต้องต่อเรือ เนื่องจากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ดูแลประชาธิปไตย ส่วนการซื้อขีปนาวุธเป็นการซื้อตามระบบ เพราะหากมีเรือไม่มีอาวุธรัฐบาลจะจัดซื้อมาเพื่อเหตุใด
ส่วนการตั้งข้อสังเกตุการจัดสรรงบประมาณประจำปีของกระทรวงกลาโหม ปี 2561 ที่เพิ่มเพิ่มขึ้นถึง 2.2 แสนล้านบาทนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่ได้เกินสัดส่วนของประเทศ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกเรื่อง และงานด้านความมั่นคงเป็นสิ่งที่ทิ้งไม่ได้ อีกทั้งขีปนาวุธซื้อมาใช้งานด้านการคุ้มครองทางทะเล บรรเทาภัยพิบัติ และดูแลประชาชน ไม่ได้ซื้อมารบ อีกทั้งส่วนหนึ่งยังจำเป็นต้องไว้ฝึกซ้อมกับต่างประเทศ
ส่วนกรณีการตรวจสอบรายชื่อบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเรื่องดังกล่าว มีคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกลาโหม เป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว และหากแต่งตั้งเรียบร้อยจะส่งมาที่ รัฐมนตรี เพื่อเสนอให้ตนเองนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งบุคคลใดจะเหมาะสมกับตำแหน่งผู้บัญชาการก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการดังกล่าว อีกทั้งรายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งก็ไม่ห่างไกลจากที่อยู่ในกลุ่ม 5 เสือ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าการพิจารณาใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นขอสื่อมวลชนอย่าประเมิณหรือเชียร์กันเอง
ส่วนการตรวจสอบการทุจริตโครงการต่างๆ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) นายกรัฐมนตรี ระบุว่าขณะนี้การตรวจอยู่ในขั้นตอนของศูย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอ.ตช.) ซึ่งมีข้อมูลอยู่พอสมควร และหลายเรื่องได้ส่งไปให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ไปแล้ว และอยู่ในระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย
สำหรับปัญหาของประชาชนที่มีรายได้น้อย พลเอกประยุทธ ระบุว่า รัฐบาลกำลังดูอยู่ว่าจะแก้อย่างไร เพื่อไม่ต้องนำงบกลางไปใช้เพิ่มเติม ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาลฟรี รวมถึงเรื่องการศึกษาฟรี เพื่อไม่ต้องเพิ่มภาระเรื่องการจัดเก็บภาษีเพิ่ม ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่คิดเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ถึง ร้อยละ 10 จึงอนุมัติและขยายเวลาให้จ่ายภาษีแค่ร้อยละ 7 ต่อ ปี เพราะคนไทยยังมีรายได้ไม่มากพอ