ผู้ว่าฯเกาะกวมหนุนทรัมป์/ขีปนาวุธเกาหลีเหนือยังไม่เสถียร

การตอบโต้ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯ กับทางการเกาหลีเหนือ ที่ขู่ว่าจะยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) โจมตีเกาะกวมในช่วงกลางเดือนสิงหาคม นายเอ็ดดี้ คัลโว ผู้ว่าการเกาะกวม ดินแดนในปกครองของสหรัฐฯ แถลงสนับสนุนและขอบคุณที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ขู่เกาหลีเหนือว่าจะพบกับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งยังเป็นท่าทีที่ตรงข้ามกับนานาประเทศที่มีความวิตกกังวล พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯหยุดการโต้เถียง เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกรุนแรงมากขึ้น  นายคัลโวเห็นว่า ไม่ยุติธรรมที่ประธานาธิบดีทรัมป์ถูกตำหนิ เพราะไม่ได้เป็นผู้ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้าย แต่เป็นเพราะเกาหลีเหนือประกาศว่าจะโจมตีเกาะกวมจนทำให้ทั้งภูมิภาคตกอยู่ในภาวะตึงเครียด

ประธานาธิบดีมุน แจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ และเกาหลีใต้ไม่ต้องการให้มีสงครามเกิดขึ้นอีก หลังจากที่เคยมีสงครามเกิดขึ้นในปี 2493-2496 และทำให้เกิดความสูญเสียและความแตกแยกในภูมิภาค ซึ่งเขาเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยการยึดมั่นในนโยบายรักษาสันติภาพ

ด้านรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้เรียกกลับอัครราชทูต 3 คน ได้แก่ นายจี แจ-รยอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน, นายคิม ฮยอง-จุน เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย และนายจา ซอง-นัม เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อเข้าร่วมการประชุมวาระสำคัญ แต่มีการคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเพียงการประชุมประจำปี ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558

ก่อนหน้านี้นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) เปิดเผยว่า มีข้อมูลข่าวกรองที่ชี้ว่ายังไม่มีภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์โดยเกาหลีเหนือ และมั่นใจว่าเกาหลีเหนือจะเดินหน้าโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และทดสอบขีปนาวุธต่อไป

นายซอ ชู ซก รัฐมนตรีช่วยกลาโหมเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยังไม่มีเทคโนโลยีนำวิถีที่แม่นยำเพียงพอ และคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี ในการพัฒนาเทคโนโลยี

ส่วนเหตุการณ์ที่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ มลรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ ซึ่งมีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มชาตินิยมกับกลุ่มผู้เรียกร้องความเท่าเทียมด้านเชื้อชาติ และกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เมื่อนายเจมส์ อเล็กซ์ ฟิลด์ส จูเนียร์ วัย 20 ปี ขับรถยนต์พุ่งชนกลุ่มผู้เรียกร้องความเท่าเทียม เจ้าหน้าที่เปิดเผยผลการสอบสวนและผลการตรวจสอบสภาพจิตใจ พบว่า นายฟิลด์สคลั่งไคล้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำกองทัพนาซีเยอรมัน และเคยป่วยเป็นโรคจิตเภท

ที่เยอรมนี เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน อายุ 41 ปีซึ่งถูกทำร้ายร่างกาย เพราะแสดงความเคารพอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำกองทัพนาซีเยอรมัน ระหว่างเดินทางกลับจากสถานบันเทิงในเมืองเดรสเดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าแม้ชายชาวอเมริกันจะเมาสุราอย่างหนัก แต่ก็ยังมีความผิดตามกฎหมายเรื่องห้ามแสดงความเคารพแบบนาซี และกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

ส่วนที่ประเทศบูร์กินาฟาโซ ในแอฟริกาตะวันตก เกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นกลางกรุงวากาดูกู เมื่อกลุ่มมือปืน 3 คนก่อเหตุกราดยิงลูกค้าที่นั่งอยู่ด้านนอกร้านอาซิซ อิสตันบูล ซึ่งเป็นร้านอาหารตุรกี จากนั้นคนร้ายก็มีต่อสุ้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย ซึ่งมีอยู่ 2 รายที่เป็นคนร้าย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน โดยมีการสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุคือเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ที่เคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคซาเฮล

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเอเชียใต้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของอินเดียค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในรถบัส 2 คันซึ่งถูกดินโคลนถล่มทับในรัฐหิมาจัลประเทศ โดยพบผู้เสียชีวิตแล้ว 46 ราย และส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินโคลนถล่มในอินเดียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 73 ราย

ขณะที่ในเขตจิตวัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเนปาล เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวมากกว่า 500 คนที่ยังติดค้างในหมู่บ้านซัวราฮา ซึ่งห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปประมาณ 155 ก.ม. กาชาดเนปาล รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินโคลนถล่มอย่างน้อย 70 ราย และประชาชนกว่า 100,000 คนได้รับผลกระทบ

ส่วนเหตุดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ของกรุงฟรีทาวน์ ของประเทศเซียร์ราลีโอน ในแอฟริกาตะวันตก พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 312 รายและอีกมากกว่า 2,000 คนต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย และทำให้รัฐบาลต้องประชุมฉุกเฉินเพื่อวางแผนรับมือภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในเมืองหลวง

กรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ของประเทศเมียนมา (LBVD) ยืนยันการพบไข้หวัดนก H5N1 ระบาดภายในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก แถบเมืองตะนาวศรี ทางองค์การโรคระบาดสัตว์ (OIE) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ โดยมีสัตว์ปีกซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจำนวน 5,000 ตัว ติดเชื้อไข้หวัดนกตายแล้วมากกว่า 3,194 ตัว และที่เหลืออีกกว่า 1,806 ตัว ได้ถูกเจ้าหน้าที่กำจัดทำลาย

บลูมเบิร์ก รายงานว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์เติบโตอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่รัฐบาลประมาณการไว้ เนื่องจากการค้าทั่วโลกฟื้นตัว โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ในช่วงไตรมาสสองโตจากสามเดือนก่อนหน้าร้อยละ 2.2 ทำให้ประมาณการว่าจะเติบโตร้อยละ 2.9

..