ปธน.สหรัฐไม่ประณามกลุ่มชาตินิยม/เกาหลีเหนือระดมกำลังพร้อมโจมตีสหรัฐ

จากเหตุรุนแรงที่กลุ่มชาตินิยมมีการเคลื่อนไหวในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ มลรัฐเวอร์จิเนียสหรัฐฯ และมีผู้ที่ขับรถยนต์พุ่งชนกลุ่มผู้ที่เดินขบวนต่อต้านกลุ่มชาตินิยม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงอายุ 32 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 19 คน ซึ่งสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ต้องเข้ามาทำคดี ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่กล้าประณามการกระทำของกลุ่มชาตินิยม เนื่องจากเป็นฐานเสียงของตนเอง โดยมีสื่อหลายแห่งในสหรัฐที่รายงานว่า กลุ่มชาตินิยมที่เข้าร่วมการชุมนุมมีทั้งกลุ่มชาตินิยมผิวขาว กลุ่มนีโอนาซี และกลุ่มคูคลักซ์แคลน ซึ่งถือว่าเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี

โดยในเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต เกิดขึ้นที่สวนสาธารณะมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียร์ วิทยาเขตชาร์ลอตส์วิลล์ หลังจากที่สมาชิกกลุ่มคลูคลักซ์แคลนประท้วงแผนเคลื่อนย้ายอนุสาวรีย์นายพลโรเบิร์ต อี. ลี ผู้นำทหารฝ่ายใต้ ยุคสงครามกลางเมืองสหรัฐซึ่งสนับสนุนให้มีระบอบทาส ซึ่งมีการปิดถนนและปะทะกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งนอกจากนี้ยังมีเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมประสบเหตุตกทำให้เจ้าหน้าที่และนักบินเสียชีวิตอีก 2 ราย

นายเทอร์รี แม็กออลิฟฟ์ ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ประกาศภาวะฉุกเฉินพร้อมประกาศเตือนให้กลุ่มชาตินิยมกลับบ้าน ส่วนนายเจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แถลงประณามเหตุการณ์ขับรถไล่ชนกลุ่มผู้ประท้วง และยืนยันว่าเอฟบีไอจะสอบสวนเพื่อเอาผิดผู้ก่อการ

สำหรับผู้ต้องหาก่อเหตุขับรถชนผู้ประท้วง คือนายเจมส์ อเล็กซ์ ฟีลด์ จูเนียร์ มาจากเมืองโมมี รัฐโอไฮโอ เขาถูกตั้งข้อหาฆ่าโดยไม่เจตนา ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส

ส่วนการเมืองสหรัฐ นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษเพื่อตรวจสอบว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และความเป็นไปได้ของการสมรู้ร่วมคิดระหว่างรัฐบาลรัสเซียกับทีมหาเสียงของประธานาธิบดี หารือกับทำเนียบขาวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งการพูดคุยกับนายรีนซ์ พรีบัส อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เพื่อหาสาเหตุของการไล่ออกนายเจมส์ โคมีย์ จากตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอ

หนังสือพิมพ์โรดงชินบุนของเกาหลีเหนือ รายงานว่ามีนักศึกษา แรงงานรุ่นใหม่ และอดีตทหารปลดประจำการ รวม 3,475,000 คน สมัครเป็นทหารรับใช้ชาติเมื่อรัฐบาลประกาศจะตอบโต้สหรัฐฯ การลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งได้รับการอนุมัติในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม

ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เกี่ยวกับความร่วมมือในการปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ และย้ำว่าสหรัฐและมิตรประเทศพร้อมตอบโต้เต็มกำลังด้วยมาตรการต่าง ๆ ทั้งการทูต เศรษฐกิจ และการทหาร

สมาชิกรัฐสภาอิหร่านลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมาก 240 จาก 244 เสียง ให้เดินหน้าโครงการพัฒนาขีปนาวุธมูลค่า 520 ล้านดอลลาร์ เพื่อรับมือกับมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจและนโยบายเสี่ยงภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของหน่วยพิทักษ์ปฏิวัติในต่างแดน

ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปญา เนียโต แห่งเม็กซิโก รับรองการแก้ไขกฎระเบียบของพรรคปฏิวัติสถาบัน ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล เพื่อให้คนภายนอกมีโอกาสได้ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี และเปิดทางให้มีการวางตัวทายาททางการเมือง ซึ่งคาดว่านายโฮเซ อันโตนิโอ เมียเด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี

กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนประกาศระงับการทำกิจกรรมของเรือกู้ภัย เนื่องจากถูกหน่วยยามฝั่งลิเบียคุกคามการทำงาน และประกาศขยายพื้นที่ปฏิบัติการเข้าสู่น่านน้ำสากล โดยเจ้าหน้าที่ของกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนจะทำงานอยู่บนเรือกู้ภัยอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอิตาลีเห็นชอบให้มีการส่งเรือรบเข้าช่วยเหลือหน่วยยามฝั่งลิเบียเพื่อค้นหาขบวนการค้ามนุษย์ และห้ามเรือขององค์กรบรรเทาทุกข์เข้าไปในน่านน้ำลิเบีย โดยไม่ได้รับอนุญาต

ที่ปากีสถาน เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีขบวนรถเจ้าหน้าที่ ขณะเดินทางผ่านย่านการค้าในเมืองเควตตา จังหวัดบาลูจิสถาน ทางตะวันตกของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ศพ ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 7 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 32 คน ต่อมากลุ่มไอเอสจังหวัดโคราซาน เครือข่ายของกลุ่มก่อการร้ายไอเอสที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน อ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยให้มือระเบิดฆ่าตัวตายขับรถจักรยานยนต์พุ่งชนขบวนรถของเจ้าหน้าที่

พีดีวีเอสเอ บริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลาเปิดเผยว่า มีรายได้ลดลงมาก โดยรายได้จากน้ำมันเมื่อปี 2559 ลดลงไปร้อยละ 33.5 เมื่อเทียบกับปี 2558 หรือมีรายได้ 48,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ในปี 2558 มีรายได้อยู่ที่ 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย ลงนามให้ตั้งหน่วยงานตรวจสารต้องห้าม ซึ่งเป็นอิสระจากกระทรวงกีฬา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและผลักดันให้นักกีฬาของรัสเซียกลับสู่การแข่งขันระดับนานาชาติอีกครั้ง หลังจากที่นักกีฬารัสเซียถูกห้ามแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่นครรีโอเดจาเนโรที่บราซิล และยังพลาดการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกที่กรุงลอนดอนในอังกฤษอีกด้วย 

..