สรุปข่าว19.35น.
+++นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ขอบคุณ สนช. ที่เซ็ตซีโร่กกต. ขอขอบคุณจากใจจริง ไม่เป็นการประชดประชัน ทำให้ ไม่ต้องมาจัดการเลือกตั้งที่วุ่นวายในอนาคต เพราะกติกาใหม่จะทำให้ฝ่ายปฏิบัติตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ทำงานยาก การจับเบอร์รายเขต การพิมพ์บัตรใบเดียว จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมาก แล้วการให้พวกเราพ้นจากตำแหน่งก็ไม่ต้องมารับผิดชอบ ไม่ต้องมาเสี่ยง ส่วนการที่พรรคการเมืองเสนอให้มีการปลดล๊อกพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้ ว่า ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะพรรคการเมืองจะได้ไปเตรียมการ เช่น ระบบไพรมารี่โหวตที่จะต้องหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด แต่ทั้งนี้ก็เป็นดุลพินิจของ คสช. ที่จะพิจารณาความเหมาะสมจะปลดล็อกได้เมื่อใด
+++ส่วนหนังสือแจ้งมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ชี้มูลความผิดนายอำพล วงศ์ศิริ ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต.คนใหม่นั้น ได้มาถึงสำนักงาน กกต. แล้วในวันนี้ (11 ส.ค.) โดยสำนักงาน กกต.จะนำเสนอเข้าที่ประชุม กกต.ในวันอังคารที่ 15 ส.ค.60 เพื่อให้ กกต.พิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนตัวเห็นว่า น่าจะให้เป็นหน้าที่ของ กกต. ชุดใหม่เป็นผู้ดำเนินการ เพราะเกรงว่าหาก กกต.ชุดปัจจุบันเร่งสรรหา ก็อาจจะถูกมองว่า วางคนของตัวเองไว้ ภายหลังถูกเซ็ตซีโร่ เป็นตัวแทนหรือไม่ เรื่องดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม กกต.ทั้ง 5 คน
+++การจัดการหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ด้อยลง จากลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่บางราย และมีการตัดหนี้สูญเพิ่มขึ้น จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคเหมืองแร่และบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อีกทั้ง NPL ของสินเชื่อธุรกิจ SME ขนาดเล็ก ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในภาคพาณิชย์และบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เช่นกัน ส่วนปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ มองว่าเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว ซึ่งธนาคารพาณิชย์ออกมาตรการช่วยเหลือ ปรับโครงสร้างหนี้ พักชำระหนี้ลูกหนี้ ที่ประสบภัยน้ำท่วม และ ไม่ถือเป็น NPL สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ร้อยละ 3.3จากไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ร้อยละ 2.8 สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่เริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่าสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อเอสเอ็มอี จะเริ่มฟื้นตัวดี และได้ผลบวกจากโครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีทุน ที่ธนาคารพาณิชย์ และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมกันปล่อยวงเงินสินเชื่อ
+++พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปที่ สน.มีนบุรี เพื่อให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้นางสมบัติ สิงห์สุพร อายุ 67 ปี มารดา ด.ต.สรรลักษณ์ สิงห์สุพรรณ อายุ 45 ปี สังกัด สน.จระเข้น้อย ช่วยงานชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (ชปส.บก.น.3)ที่เสียชีวิต ขณะติดตามการจับกุมคนร้ายคดียาเสพติด ภายในคลองประเวศบุรีรมย์เย็นวานนี้(10 ส.ค.)
+++พตอ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.สน.จระเข้น้อย กล่าวว่า นายนิพันธ์ คูหากนก ผู้ต้องหา หลบหนีไปได้ แต่ได้เบาะแสแล้ว อยู่ระหว่างติดตาม
+++หลังมีการเผยแพร่ภาพหญิงผูกคอลูกตัวเองเพื่อประชดสามี ผ่านทาง โซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ค ล่าสุดได้มีหลายฝ่ายติดตามไปยังบ้านที่เกิดเหตุในซอยฉลองกรุง 39 และสามารถควบคุมตัวหญิงคนดังกล่าวมาที่สถานีตำรวจนครบาลฉลองกรุงได้แล้ว ส่วนบุตรชายที่ถูกผูกคอปลอดภัย
+++พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ผบก.ปอศ.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ตกเป็น1ใน10ผู้ต้องหาอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบินชาวไทยเชื้อสายจีน 20ล้านบาท ว่า เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ส่วนคดีอาญาก็ว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีการปกป้องคนกระทำความผิดอยู่แล้ว ยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร ก่อนหน้านี้ เมื่เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการ กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ หรือ 191 พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีอุ้มรีดไถนักธุรกิจ บริษัทสายการบิน รวม 10 คน ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ 6 นาย ชาวสิงคโปร์ 1 คน และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม 2 คน เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหา บุกรุกเข้ามาภายใน บริษัท คันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด ภายในซอยนวลจันทร์ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. โดยสร้างหลักฐานเท็จว่า นายสุรชัย แซ่ย่าง 1 ในผู้เสียหาย ทำเอกสารทะเบียนราษฎร์ และบัตรประชาชนปลอม ก่อนพาตัวผู้เสียหายทั้งสองคนไป พบ พล.ต.จรูญ นายทหารสังกัดกองทัพไทย ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้บังคับบัญชา พร้อมเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายต่อรองยอมจ่ายเงินแค่ 2 ล้านบาท
+++ในเฟซบุ๊ค ของกงสุลใหญ่ไทยประจำนครลอสแองเจลลิส รายงาน สถานะล่าสุดการเก็บกู้สองนักศึกษาไทยที่สูญหายในอุบัติเหตุที่อุทยานแห่งชาติ Kings Canyon ระบุว่า วันนี้ (๑๐ ส.ค. ๒๕๖๐) กงสุลใหญ่ฯ ได้โทรศัพท์สองครั้งเพื่อติดตามกับ กรรมการบริหารเขตเฟรสโน ถึงการเตรียมการเก็บกู้ โดยระบุว่ามีการพยากรณ์ว่ากระแสและระดับน้ำคงจะเสถียรและอากาศแจ่มใสในช่วงหลายวันข้างหน้า เบื้องต้น ทหารได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ชินุค ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ในการยกรถยนต์ ทำการบินสำรวจพื้นที่ ลำน้ำและสำรวจความเป็นไปได้ในการเก็บกู้รถยนต์ของนักศึกษาที่ติดอยู่บนแผ่นหินกลางแม่น้ำ ทั้งนี้ต้องให้แน่ใจว่าบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นหุบเขาลึกมีช่องว่างเพียงพอที่เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวที่จะทำการบินได้โดยปลอดภัยหรือไม่ โดยการเก็บกู้เป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงสุดรวมทั้งความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ นอกจากนี้ หน่วยกู้ภัยยังมีความห่วงกังวลกับการที่ร่างนักศึกษาจะถูกกระแสน้ำพัดและรถยนต์อาจแยกเป็นชิ้นเมื่อถูกยกทางอากาศ อีกทั้งมีน้ำตกในลำน้ำไม่ไกลนักจึงยิ่งเพิมปัจจัยความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนั้น เตรียมการประชุมทางไกลกับหัวหน้ากลุ่มเขตเฟรสโนและหน่วยกู้ภัย กงสุลใหญ่ฯ และครอบครัวในวันพรุ่งนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ย้ำว่าฝ่ายครอบครัว สถานกงสุลใหญ่ฯ และชุมชนไทยมีเป้าหมายสูงสุดอันเดียวกันคือ การเก็บกู้และขอให้ดำเนินการเก็บกู้ร่างนักศึกษาไทยโดยเร่งด่วน
++++แถลงการณ์จากนายโทนี บ็อตติ นายอำเภอเขตท้องที่เทศมณฑลเฟรสโน เมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯว่า ทีมกู้ภัยที่บินไปสำรวจทางเฮลิคอปเตอร์ใกล้รถคันเกิดเหตุก่อนหน้านี้ ยืนยันว่ามีคนสองคนติดอยู่ในรถยนต์ แต่ตำรวจยังไม่สามารถระบุเอกลักษณ์บุคคลทั้งสองในขณะนี้ ก่อนหน้านี้ 2 วันหลังเกิดอุบัติเหตุ โรงแรมท้องถิ่นแห่งหนึ่งแจ้งกับตำรวจว่า 2 นักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งขับรถไปเมื่อเช้าวันเกิดเหตุแล้วไม่กลับมาอีกเลย จึงขอให้ตำรวจช่วยสอบสวนว่าพวกเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ กงสุลไทยเพิ่มเติมว่าชุมชนคนไทยในรัฐแคลิฟอร์เนียแสดงความผิดหวังกรณีการเก็บกู้ซากรถที่ล่าช้าของหน่วยกู้ภัยสหรัฐฯและขู่จะนัดประท้วงในนครลอสแอนเจลิสและเมืองเฟรสโนในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ถ้าหากว่าการเก็บกู้ซากรถยนต์ยังไม่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลานั้น
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ระดับ1,561.31จุด ลดลง10.33จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,323.88 ล้านบาท
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ร่วงลงอย่างหนัก ตามทิศทางของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือลดลง 560.49 จุด ที่ 26,883.51 จุด