พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ชี้แจงเรื่องการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เมื่อวานนี้ว่า ได้เห็นชอบในหลักการหลายเรื่องเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและครบวงจร โดยสั่งให้มีการปรับแผนแก้ปัญหาและปัญเทาความเดือดร้อนทั้งการขุดลอกคูคลอง และการทำคลองผันน้ำ แต่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการเสียสละพื้นที่บ้าง โดยรัฐบาลก็จะหามาตรการในการดูแลเยียวยาให้เหมาะสม ส่วนการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำโดยให้กรมทรัพยากรน้ำมาสังกัดภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ซึ่งไม่ได้นำทุกหน่วยงานมาอยู่กับรัฐบาล และไม่ใช่ว่าดำเนินงานไม่ได้ผล แต่ที่ผ่านมาไม่มีการเชื่อมโยงกัน รวมถึงสั่งการวางกรอบนโยบายดูแลงบประมาณในการบูรณาการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง การใช้คำสั่ง คสช.ตามมาตรา 44 ว่าเป็นการปรับโครงสร้างเพื่อให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.ที่ดำเนินการไปแล้ว และในวันพรุ่งนี้ จะสรุปเพื่อเป็นตัวอย่างให้ดูว่าในช่วง 3 ปีได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง และในปี 2560-2561 ที่ต้องเร่งดำเนินการในส่วนที่ต้องทำให้เกิดความยั่งยืน ที่อย่างน้อยต้องแก้ปัญหาให้ได้ร้อยละ 30-50 หากจะแก้ให้ได้ร้อยละ 100 จะต้องใช้งบประมาณและระยะเวลาซึ่งจะดำเนินการต่อไป
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า ในวันที่ 15 ส.ค. หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะนัดอธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา มาคุยถึงเรื่องการ บูรณาการในการทำงานร่วมกัน
CR:แฟ้มภาพ รัฐบาลไทย