12 ส.ค. ชวนดูฝนดาวตก/ร่างรธน.ว่าด้วยลต.สส.ยังไม่จบ/ททท.เสนอลดหย่อนภาษี หนุนเที่ยวไทย/

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.

+++เชิญชมฝนดาวตก  นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเพอร์ เซอิดส์ หรือมักเรียกว่า ฝนดาวตกวันแม่ ในคืนวันที่ 12 สิงหาคม จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 สิงหาคม คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดประมาณ 100 ดวงต่อชั่วโมง มีศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวเพอร์ เซอุส บนท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สังเกตได้ด้วยตาเปล่า แต่เนื่องจากในวันดังกล่าวมีแสงจันทร์รบกวน ประกอบกับประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูฝนอาจทำให้สภาพท้องฟ้าไม่เอื้อต่อการสังเกตการณ์ฝนดาวตกมากนัก อาจจะมองเห็นได้น้อย

++++นายเฉลิมชนม์ วรรณทอง ผู้อำนวยการหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา สงขลา เปิดเผยถึงกิจกรรมเปิดฟ้าตามหาดาว"ชวนแม่ชมฝนดาวตกเฟอร์เซอิดส์" หรือ ฝนดาวตกวันแม่ วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2560 เวลา 17.00-24.00 น. ณ ลานชมวิวนางเงือก หาดสมิหลา จ.สงขลา ผู้สนใจได้เข้าร่วมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้บริการเผยแพร่ความรู้ สร้างความตระหนักและความตื่นตัวทางดาราศาสตร์แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษารวมทั้งประชาชนทั่วไปให้มีความสนใจในกิจกรรมทางดาราศาสตร์มากยิ่งขึ้น ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์เกิดจากเศษฝุ่นละอองที่ดาวหางสวิฟท์-ทัตเทิล (109P/Swift-Tuttle) เหลือทิ้งไว้ในวงโคจรเมื่อ 25 ปีก่อน เมื่อโลกโคจรตัดผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีเศษฝุ่นดังกล่าว จะดึงดูดเศษฝุ่นเหล่านี้เข้ามาในชั้นบรรยากาศ เกิดการลุกไหม้ เป็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้า

+++ประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยเลือกตั้ง สส.  นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีคำถามว่า กรธ.ยกร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อใคร ว่าคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน ให้ระบบการเลือกตั้งไม่ง่ายต่อการซื้อเสียง แต่ก็ไม่ใช่จะมาบอกว่าวิธีนี้การซื้อเสียงจะหมดไป และถ้าใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ ก็ขอให้บอกมาที่ กรธ. ก่อนหน้านี้ กลุ่ม 34 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงชื่อยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ..... ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่ประชุมใหญ่ สนช.มีมติให้ประธานและผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่ในวาระต่อจนครบวาระ ซึ่งอาจจะขัดกับคุณสมบัติในรัฐธรรมนูญปี 60 นายมีชัยกล่าวว่า สนช.สามารถยื่นได้เลย เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ต้องรอดูท่าทีของ กรธ. เพราะเราเพียงแต่สงสัยตรงนี้เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็เป็นทางเลือกของเขา ก็เหมือนกับที่เราเซตซีโรคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ก็เป็นคนละเหตุผลกับกรณีของ กกต. ตรงนี้ก็ขึ้นกับ สนช.

++++นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแยกเบอร์ผู้สมัคร ส.ส.รายเขต ในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า วันนี้ต้องทำใจ เพราะสถานการณ์ไม่เป็นประชาธิปไตย จะหวังให้การร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกให้เลิศเป็นประชาธิปไตยคงไม่ได้ จึงอยู่ที่พรรคการเมืองกับนักการเมืองรับได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่เต็มใจรับกติกา ก็ไม่ต้องเล่น เป็นสิทธิโดยชอบธรรม การออกแบบให้แยกเบอร์ผู้สมัครเป็นรายเขตนั้น จะทำให้ กกต.ทำงานยาก โดยเฉพาะการนับคะแนน พรรคการเมืองจะรณรงค์หาเสียงลำบากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์บัตรเลือกตั้งจะสูงขึ้น และจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน

+++ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวว่า  นายมีชัย ฤชุพันธ์ ต่อเป็นผู้รอบรู้รอบด้าน ไม่ควรเอาความคิดเห็นของตนเองเป็นหลักในการร่างกฎหมาย การพิจารณากฎหมายต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายว่าเห็นอย่างไร เพื่อทำให้กฎหมายนั้นสมบูรณ์ ไม่ใช่ร่างกฎหมายเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ส่วนตัวเกิดทันในยุคที่การเลือกตั้งใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ไม่ได้หัวโบราณที่จะย้อนกลับไปใช้แบบนั้น

++++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี สนช.ส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาให้รัฐบาลแล้วว่า ขณะนี้รัฐบาลได้รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวแล้ว อยู่ในขั้นตอนของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อใด ส่วนการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปที่ต้องให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนั้น  รายชื่ออยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และหัวหน้า คสช.แล้ว แต่ยังไม่ครบทั้งหมด จะทยอยตั้งบางส่วนก่อ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงแนวโน้มการปลดล็อกให้พรรคการเมืองแสดงความคิดเห็นได้หลัง สนช.ส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองให้รัฐบาลพิจารณาว่า ยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมืองขณะนี้ ขอให้รอก่อน เพราะเรายังไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่สงบและไม่นิ่งพอ และเรื่องคดีความต่างๆ ก็ยังไม่จบ

+++โดรน !!พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด  เตรียมยุทโธปกรณ์พิเศษยับยั้งโดรนบินเข้าเขตกองทัพอากาศ เพื่อรักษาความมั่นคง ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)  ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เร่งล่าตัวผู้กระทำผิดขับโดรนเกือบชนเครื่องบิน ยอมรับหาตัวค่อนข้างยาก เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย มีบทลงโทษตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศฯ มาตรา 79 โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในฐานะหน่วยผู้รับผิดชอบตามกฎหมายอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิด

+++กัปตันโสภณ พิฆเนศวร ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายควบคุมคุณภาพ ความปลอดภัย และความมั่นคงองค์กรบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่โดรนบินอยู่ที่ระดับความสูง 3,000-3,500 ฟุต ถือว่าสามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินที่ทำการบินอยู่ได้แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าจะโดนส่วนใดของเครื่องบิน ยืนยันว่าการที่โดรนชนกับเครื่องบิน จะไม่ได้ทำให้เครื่องบินตกทันทีเพราะมีนักบินคอยควบคุมเครื่องบินอยู่แต่จะทำให้นักบินต้องประสบกับความยากลำบากในการต้องเร่งนำเครื่องบินลงจอดสนามบินโดยเร็วที่สุดจึงขึ้นอยู่กับนักบินว่าจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้หรือไม่ และรวดเร็วแค่ไหน จากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) รายงานว่าโดรนเป็นภัยคุกคามที่กำลังเพิ่มมากขึ้นต่อความปลอดภัยการบินพลเรือนซึ่งสถิติทั่วโลก

+++รังนกปลอม เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจท้องที่ เข้าตรวจค้น ร้านอาหาร ภัตราคาร 9 จุด ในเมืองพัทยา ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่าได้ส่งสายสืบนำรังนก จากร้านอาหารต้องสงสัยไปตรวจ พบว่า เป็นรังนกปลอม ที่ทำมาจาก ยางไม้ ประเภท ยางคารายา นำเข้ามาจากประเทศอินเดีย พฤติการณ์ของผู้ประกอบการจะนำยางไม้มาต้มประมาณ 1 คืน ให้มีลักษณะคล้ายรังนก ก่อนที่จะปรุงและบรรจุในลูกมะพร้าว จำหน่ายให้กับกรุ๊ปทัวร์ในราคาเซทอาหารรวมในราคา 3 พันบาท แต่หลังจากนั้นทางผู้ประกอบการจะแอบคืนเงินจำนวน 2,600 บาท ให้กับหัวหน้าทัวร์คุมตัวผู้ต้องหาจากร้านที่ตรวจค้น มาดำเนินคดีฐานความผิดผลิตและจำหน่ายอาหารปลอม ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 โทษจำคุก 6 เดือน – 10 ปี และปรับ 5 พัทบาท – 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

+++ปิดท้าย วันนี้ ต้องติดตามนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผลักดันแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านมาตรการลดหย่อนภาษี และมาตรการทางการตลาด ด้วยการจัดโครงการ “เที่ยวทั่วไทย ไปถึงถิ่น” เพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวเกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่น และกระจายตัวไปยังเมืองรองอื่น ๆ โดยจะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาส 4 คือ ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม 2560 วันนี้ จะนำนโยบายดังกล่าวหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อขออนุมัติจากทางกระทรวงการคลัง โดยเบื้องต้นจะมีการกำหนดมาตรการเป็นแบบขั้นบันได แบ่งตามโซนจังหวัด ดังนี้โซนที่ 1 เมืองท่องเที่ยวหลัก 14 จังหวัด วงเงินลดหย่อนภาษี 15,000 บาทเป็นเมืองยอดนิยมในการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, นครราชสีมา, กาญจนบุรี, ชลบุรี, เชียงใหม่, ระยอง, เพชรบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ขอนแก่น, สงขลา, ประจวบคีรีขันธ์, สระบุรี, ภูเก็ต และนครปฐม โซนที่ 2 เมืองต้องห้ามพลาด 12 จังหวัด วงเงินลดหย่อนภาษี 30,000 บาทประกอบด้วย ลำปาง, น่าน, เพชรบูรณ์, เลย, บุรีรัมย์, จันทบุรี, ตราด, สมุทรสงคราม, ราชบุรี, ชุมพร, นครศรีธรรมราช และตรัง โซนที่ 3 จังหวัดอื่น ๆ ที่เหลืออีก 51 จังหวัด วงเงินหักลดหย่อนภาษี 50,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่นำมาลดหย่อนได้ ประกอบด้วย ค่าที่พัก ค่าบริการนำเที่ยว ค่าอาหารและเครื่องดื่ม และค่าซื้อสินค้าของที่ระลึกที่ทะเบียนถูกต้องและออกไปกำกับภาษีได้ โดยตั้งเป้าจะช่วยเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวในประเทศ ในช่วงปลายปีได้ประมาณ 10-15%