ความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดขอให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศ ในแอฟริกา ติดตามข่าวสารการระบาดอย่างใกล้ชิด และแจ้งให้ชุมชนไทยในประเทศที่มีการระบาดเฝ้าระวังและตรวจตราผู้มาขอรับการตรวจลงตราที่สถานเอกอัครราชทูตและ สถานกงสุลใหญ่ อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ในประเทศนั้นๆ ทั้งนี้
องค์การอนามัยโลก รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ณ.วันที่ 1 ส.ค.รวม 887 ศพ แบ่งเป็นรายประเทศ กินี 358ศพ เซียร์ราลีโอน 273 ศพ ไลบีเรีย 255 ศพ และไนจีเลีย 1 ศพ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ ได้รายงานว่ายังไม่พบการติดเชื้อในหมู่คนไทยใน 4 ประเทศและรายงานจำนวนคนไทยที่อาศัยใน 4 ประเทศ ดังนี้ เซเนกัล มีคนไทย 17 คน เป็น ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตและอีกกลุ่มคือครอบครัวของคนไทยที่สมรสกับคนไทยใน ฝรั่งเศส ซึ่งกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ได้เดินทางออกจากเซเนกัลไปพักที่ฝรั่งเศสหรือที่ประเทศไทยตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2557แล้ว สาหรับประเทศกินีและเซียร์ราลีโอน ไม่มีคนไทยพักอาศัย ส่วนไลบีเรีย มีเจ้าหน้าที่ คนไทย 1 คน ทำงานที่หน่วยงานรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (UNIAMIL) และมีเด็กลูกครึ่งไทย- ไลบีเรีย อีก3คน นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ สั่งการให้คณะผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ประสานกับองค์การอนามัยโลกเพื่อติดตามข้อมูลการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างใกล้ชิด รวมถึงมาตรการเกี่ยวกับการป้องกัน โดยในชั้นนี้ องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้ออกประกาศจำกัดการเดินทางไปยังประเทศและ ออกจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา