นายกฯให้ใช้ศาสตร์พระราชา เป็นแผนแม่บทแก้น้ำท่วม ย้ายกรมทรัพยากรน้ำ มาอยู่สังกัดสำนักนายกฯ

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม นายวรศาสตร์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในประเทศไทย ทำให้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคอีสานที่ติดกับแม่น้ำโขง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ ในการบริหารจัดการน้ำ โดยแสดงความเป็นห่วงการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมว่า แม้จะมีส่วนราชการให้ความช่วยเหลือ แต่ในช่วงเวลาที่เกิดน้ำท่วมยังคงใช้ระยะเวลาระบายน้ำนาน จึงอยากให้ส่วนราชการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเป็นระบบ โดยนำศาสตร์พระราชาเข้ามาเป็นแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้พบว่าสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการเกิดน้ำท่วม คือ สิ่งกีดขวางทางน้ำไหล จึงต้องมีการเร่งรัดดำเนินการในเรื่องนี้ ก่อนที่จะถึงฤดูฝนในพื้นที่ภาคใต้

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่จะจัดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จะมีการพิจารณาแผนและวิธีการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสานทั้งระบบ โดยไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีระบบและวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน ซึ่งในวันประชุมจะมีการเสนอแผน การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเชิงพื้นที่ในภาคอีสานเข้าสู่คณะรัฐมนตรีด้วย ตั้งเป้าให้แก้ไขปัญหาในเชิงพื้นที่ได้ร้อยละ 30-50 ในช่วงปี 2560-2562  นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังให้แนวนโยบายว่าในการแก้ไขปัญหา จะต้องคำนึงถึงสภาวะเมื่อเกิดน้ำแล้งควบคู่กันไปด้วย ส่วนการให้ความช่วยเหลือเยียวยา หลังน้ำลดในพื้นที่ภาคอีสาน จะมีวิธีการที่ชัดเจนตามกฎหมาย โดยมีส่วนราชการดูแลในเรื่องนี้อยู่ นอกจากนี้ยังเตรียม ออกมาตรา 44 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการย้ายกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาอยู่ภายใต้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่ล่าช้า ขาดเอกภาพ และให้มีหน่วยงานที่ขึ้นตรงเพื่อประสานกับนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์สถานการณ์น้ำฝนในช่วงเดือนสิงหาคม ว่าจะมีปริมาณฝนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ซึ่งย่อมส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มได้ โดยถือเป็นการเตรียมการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือในเรื่องนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม