แผ่นดินไหวซินเจียง /ก่อสร้างพระเมรุมาศคืบหน้าร้อยละ75/ประชุมบริหารจัดการน้ำวันนี้/กกต.ชี้ทำยากลต.สส.พรรคกับคน คนละเบอร์

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++สำนักเฝ้าระวังแผ่นดิไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเมื่อเวลา 06.27 น.วันนี้  เกิดแผ่นดินไหว Northern Xinjiang China ลึก 6.5 10กิโลเมตร

+++การจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณทิศใต้ ท้องสนามหลวง พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า ตามแผน และเร็วกว่าแผนที่วางไว้ ซึ่งการดำเนินงานเร็วกว่าแผน แสดงให้เห็นว่าการทำงานผ่านไปด้วยดี โดยภาพรวมพระเมรุมาศและอาคารประกอบคืบหน้า ร้อยละ 75 ส่วนอีกร้อยละ 25 เป็นส่วนของการลงรายละเอียด โดยพระเมรุมาศ คืบหน้าร้อยละ 65 มีการทดลองติดกระดาษทองย่น บริเวณชาลาชั้นที่ 2 ของพระเมรุมาศ ส่วนพระที่นั่งทรงธรรม คืบหน้ารวมประมาณร้อยละ 85 เหลือการติดตั้งกรวยระกาบนจั่วมุขประธาน ส่วนงานตกแต่งภายใน อยู่ระหว่างการประดับลวดลายผ้าทองย่นบริเวณเสา คาน รวมทั้งทยอยติดตั้งดาวเพดาน และเริ่มตกแต่งภายในห้องประทับและห้องรับรองพระราชอาคันตุกะ โดยการกำกับ ตรวจสอบการทำงานทั้งหมดจะเป็นไปตามแบบราชประเพณี และสิ่งต่างๆ ถือว่าก้าวหน้าไปด้วยดี มั่นใจในคณะทำงานทุกคน และจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นในเดือนกันยายนนี้ อย่างสมบูรณ์แบบ และสมพระเกียรติที่สุดโลเมตร  ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

+++สถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อาจยังท่วมในพื้นที่การเกษตรบ้าง โดยรัฐบาลจะดูแลเยียวยา ต้องไปดูพื้นที่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร จะทำการเกษตรได้หรือไม่ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน และให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอ โดยจะหารือในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำวันที่ 9 สิงหาคมนี้

+++ด้านที่ประชุม คสช.เตรียมออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 รวมหน่วยงานบริหารจัดการน้ำของภาครัฐทั้งหมด ที่กระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้การทำงานไปในแนวทางเดียวกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ และต้องการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยจัดตั้งเป็นสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกฯ จะมีการชี้แจงรายละเอียดสำหรับบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องมีการโยกย้ายมายังสำนัก ดังกล่าวโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) และจะออกเป็นคำสั่ง คสช.ต่อไป ซึ่งเป็นแนวคิดนายกฯ ที่ต้องการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

+++ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติงบกลางปี 2560 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินจำเป็นในกรอบวงเงินงบประมาณ 1,685 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเนื่องจากพายุตาลัสและพายุเซินกา ครัวเรือนละ 3,000 บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งที่ผ่านมามีเกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางได้รับผกระทบจากพายุ 2 ลูกนี้ 36 จังหวัด มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 4.44 ล้านไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผบลกระทบ 27,456 ไร่ กระชัง 416 ตารางเมตร (ตร.ม.) สัตว์ได้รับผลกระทบ 1,179,592 ตัว และแปลงหญ้าอีก 417 ไร่

+++ส่วนในวันนี้   พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา เป็นประธาน กระทรวงเกษตรฯเตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำขนาดใหญ่ ในกรอบปีงบประมาณ 2562 อาทิ โครงการคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงบางบาลบางไทร โครงการเพิ่มศักยภาพแม่น้ำป่าสัก ขึ้นมาจัดทำภายในปีงบประมาณ 2561 เพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้งของประเทศ โดยอาจแบ่งการจัดทำโครงการเป็นช่วงๆ เพื่อให้ดำเนินโครงการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้รับปากแล้วว่าพร้อมสนับสนุนด้านงบประมาณอย่างเต็มที่ เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้อย่างไม่ติดขัด

+++นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ต้องปล่อยน้ำเพิ่ม เพื่อให้มีพื้นที่ว่างรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงเขื่อนในระยะต่อไป จากเดิมที่ระบายวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. เป็น 30 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งผลจากการระบายน้ำเพิ่ม จะทำให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และร่องคำ ได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุด

+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง แถลงถึงกรณีกรธ.พิจารณาร่างพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. โดยกำหนดให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองจับเบอร์รายเขต ว่า เป็นวิธีการที่แตกต่างจากอดีต หลักการดังกล่าว ไม่ได้ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญถ้าใช้บังคับกกต.ก็สามารถปฏิบัติได้ แต่จะปฏิบัติได้ยาก ซึ่งเป็นห่วงว่ากกต.ชุดใหม่ และสำนักงานจะต้องทำงานลำบากมากขึ้น แต่ถ้าใช้รูปแบบเดิมซึ่งเป็นรูปแบบที่เหมาะสม การจัดการก็สะดวก พรรคการเมืองก็ไม่เหนื่อย การทำเอกสารหาเสียงก็ง่าย เห็นว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่อยากจะคิดอะไรเขียนอะไรใหม่ ก็เอามาลองไปเรื่อยๆ ข้อดีมีอยู่แน่นอน แต่ก็ต้องพิจารณาวันมันคุ้มเสียหรือไม่

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวว่า ไม่ทราบข่าวการเสียชีวิตของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋  ส่วนภาพถ่ายซึ่งเป็นศพที่มีการเผยแพร่กันนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นศพใคร  เพราะ ได้สอบถาม ทาง สปป.ลาว  ก็ไม่ทราบเรื่อง เมื่อถามว่า โกตี๋ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ  ต้องทำอย่างไรต่อไป พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า  ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ตามตัวอยู่ แต่เมื่อไม่เจอตัวจะให้ทำยังไง 

+++ด้าน พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่มีการยืนยัน ตนก็ยังยึดถือตามเดิมซึ่งเขาอาจจะหลบตัวไปเฉยๆ ตราบใดที่ไม่มีอะไรยืนยันมาเราก็ยังต้องสืบหาต่อไป ภาพบางภาพที่มาที่ไปอาจจะมีการตกแต่งหรือทำอะไรขึ้นมาก็ได้ เป็นสิ่งที่เราต้องระวัง อย่าเพิ่งเชื่อในที่สิ่งที่เห็น เราจะต้องพิสูจน์ให้ได้ โดยเราเองก็มีการติดตามอยู่ และขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากทาง สปป.ลาว ซึ่งประเด็นเหล่านี้หากทางการลาวยังไม่ได้ยืนยันมา เราก็จะต้องพิสูจน์ทราบกันต่อไป

+++พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)กล่าวถึงกรณีมีภาพปรากฏทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับชายสวมเสื้อสีแดงเสียชีวิตที่สปป.ลาวและคาดการณ์เป็นนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงว่าตอนนี้ตนยังไม่เห็นภาพจึงไม่กล้าวิจารณ์ว่าใช่หรือไม่ใช่ อีกทั้ง เหตุไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็จะเป็นเรื่องที่ยากในการยืนยัน แต่ภาพเหล่านี้สามารถตัดต่อ ตกแต่งและดึงมาจากที่ไหนก็ได้ ตนไม่อยากให้เป็นประเด็น เพราะไม่ทราบจริงๆ  ส่วนทางผู้ช่วยทูตทหารประจำประเทศลาว ก็ได้ติดตามงานข่าวอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ได้รับทราบตามข้อมูลข่าวเท่านั้น เมื่อถามต่อว่าการที่มีข่าวแบบนี้ออกมาต้องการหวังผลอะไร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเชื่อว่าไม่มีผลอะไร