หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกปัด ไม่มีความเห็น กรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยกเลิกระบบพรรคเดียว เบอร์เดียว แต่ให้ ผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละเขตจับสลาก หรือได้หมายเลขตามจำนวนผู้สมัครของเขตนั้นนั้นแทน ทำให้ผู้สมัครในพรรคเดียวกัน แต่อยู่คนละเขต จะได้หมายเลขแตกต่างกัน เพราะเรื่องนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คงต้องรอในส่วนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ก่อน ส่วนจะช่วยลดการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงได้จริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่พรรคการเมือง นักการเมืองและประชาชน จึงขอประชาชนอย่าไปรับเงินของนักการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมาก็ทราบดีอยู่แล้วว่านักการเมืองเหล่านั้นมีเจตนาอย่างไร
นายกรัฐมนตรี พอใจการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ทั้งเรื่องการต่ออายุการทำงาน และการเปลี่ยนงานของแรงงาน ส่วนการพิสูจน์สัญชาติยังต้องไปดำเนินการที่ต้นทาง นอกจากนี้สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังได้ ขอบคุณมายังรัฐบาลไทยที่แก้ปัญหาเรื่องแรงงานกัมพูชาได้เป็นอย่างดี
ขณะที่กระทรวงแรงงานตั้งเป้าหมายใช้แรงงานต่างด้าวมาลงทะเบียนที่ 800,000 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนกว่า 700,000 คนแล้วส่วนข้อมูลจากภายนอกรวมถึงเอ็นจีโอที่ระบุว่ามีแรงงานมากกว่า 2-3 ล้านคน ไม่ทราบว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ยืนยันรัฐบาลขยายเวลาการลงทะเบียนให้ถึงเดือนธันวาคม ซึ่งรัฐบาลจะไม่ขยายเวลาให้อีก ดังนั้นขอให้แรงงานมาทำเรื่องให้ถูกกฎหมาย จะได้ไม่ถูกรีดไถ และขอนายจ้างอย่าโยนภาระมาที่รัฐบาลอย่างเดียว
ส่วนกระแสโซเชียลมีเดียโพสต์ภาพการต่อคิวยาวเพื่อรอตรวจหนังสือเดินทางของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ของสนามบินดอนเมือง นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ได้สั่งการมาโดยตลอด ต้นตอของปัญหาคือการกรอกเอกสาร กำลังสั่งให้ไปดำเนินการแก้ไขอยู่ แต่ภาพดังกล่าวที่หลุดออกมาเกิดจากปัญหาเครื่องบินมีความล่าช้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่นานๆครั้งเกิดขึ้น จึงได้กำชับไปกระทรวงคมนาคม รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมท่าอากาศยาน ให้ทำแผนเผชิญเหตุหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน รวมถึงปัญหาแท็กซี่และการเดินทางด้วย ดังนั้นขออย่าพูดให้ประเทศไทยเสียหายเรื่องการท่องเที่ยว
ส่วนการประชุม คสช.วันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการประเมินสถานการณ์ด้านความมั่นคงในภาพรวมไม่ใช่การประเมินด้านการเมือง โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งเป็นช่วงสำคัญ ของประเทศไทย ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ความสงบเรียบร้อย เสถียรภาพ ของรัฐบาลให้ได้ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีฝากเตือนกลุ่มที่จะออกมาเคลื่อนไหว ว่าอย่าทำผิดกฎหมายทั้งพระราชบัญญัติการชุมนุม สาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งบางกลุ่มฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายถึงขั้นให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ
หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกปัด ไม่มีความเห็น กรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยกเลิกระบบพรรคเดียว เบอร์เดียว แต่ให้ ผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละเขตจับสลาก หรือได้หมายเลขตามจำนวนผู้สมัครของเขตนั้นนั้นแทน ทำให้ผู้สมัครในพรรคเดียวกัน แต่อยู่คนละเขต จะได้หมายเลขแตกต่างกัน เพราะเรื่องนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คงต้องรอในส่วนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ก่อน ส่วนจะช่วยลดการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงได้จริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่พรรคการเมือง นักการเมืองและประชาชน จึงขอประชาชนอย่าไปรับเงินของนักการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมาก็ทราบดีอยู่แล้วว่านักการเมืองเหล่านั้นมีเจตนาอย่างไร
นายกรัฐมนตรี พอใจการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ทั้งเรื่องการต่ออายุการทำงาน และการเปลี่ยนงานของแรงงาน ส่วนการพิสูจน์สัญชาติยังต้องไปดำเนินการที่ต้นทาง นอกจากนี้สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังได้ ขอบคุณมายังรัฐบาลไทยที่แก้ปัญหาเรื่องแรงงานกัมพูชาได้เป็นอย่างดี
ขณะที่กระทรวงแรงงานตั้งเป้าหมายใช้แรงงานต่างด้าวมาลงทะเบียนที่ 800,000 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนกว่า 700,000 คนแล้วส่วนข้อมูลจากภายนอกรวมถึงเอ็นจีโอที่ระบุว่ามีแรงงานมากกว่า 2-3 ล้านคน ไม่ทราบว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ยืนยันรัฐบาลขยายเวลาการลงทะเบียนให้ถึงเดือนธันวาคม ซึ่งรัฐบาลจะไม่ขยายเวลาให้อีก ดังนั้นขอให้แรงงานมาทำเรื่องให้ถูกกฎหมาย จะได้ไม่ถูกรีดไถ และขอนายจ้างอย่าโยนภาระมาที่รัฐบาลอย่างเดียว
ส่วนกระแสโซเชียลมีเดียโพสต์ภาพการต่อคิวยาวเพื่อรอตรวจหนังสือเดินทางของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ของสนามบินดอนเมือง นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ได้สั่งการมาโดยตลอด ต้นตอของปัญหาคือการกรอกเอกสาร กำลังสั่งให้ไปดำเนินการแก้ไขอยู่ แต่ภาพดังกล่าวที่หลุดออกมาเกิดจากปัญหาเครื่องบินมีความล่าช้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่นานๆครั้งเกิดขึ้น จึงได้กำชับไปกระทรวงคมนาคม รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมท่าอากาศยาน ให้ทำแผนเผชิญเหตุหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน รวมถึงปัญหาแท็กซี่และการเดินทางด้วย ดังนั้นขออย่าพูดให้ประเทศไทยเสียหายเรื่องการท่องเที่ยว
ส่วนการประชุม คสช.วันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการประเมินสถานการณ์ด้านความมั่นคงในภาพรวมไม่ใช่การประเมินด้านการเมือง โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งเป็นช่วงสำคัญ ของประเทศไทย ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ความสงบเรียบร้อย เสถียรภาพ ของรัฐบาลให้ได้ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีฝากเตือนกลุ่มที่จะออกมาเคลื่อนไหว ว่าอย่าทำผิดกฎหมายทั้งพระราชบัญญัติการชุมนุม สาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งบางกลุ่มฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายถึงขั้นให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนได้ปฎิบัติการตามกฏหมายทั้งกฎหมายเดิมที่มีอยู่แล้ว พร้อมกับฝากเตือนไปยังทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายที่มีการเคลื่อนไหว ว่า วันนี้ตนไม่ได้กีดกันอะไร เพียงแต่ขอย่ากระทำอะไรที่เป็นการผิดกฎหมายทุกฉบับ ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีการบังคับใช้ก็ถูกโยงไปถึงรัฐธรรมนูญ แม้จะมีการแก้ไขแล้ว ปัญหาก็ย่อมเกิดขึ้นได้เช่นเดิมหากไม่มีการเคารพและปฏิบัติตามกฏหมายลูกต่างๆ
ส่วนกรณีมีภาพถ่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและม.112 เสียชีวิตที่ สปป.ลาว กล่าวว่าเพิ่งเห็นภาพ แต่ก็ไม่ทราบที่มา ว่าภาพมาจากไหน เพราะยังไม่มีการรับรายงาน