+++หลังจากที่ครบ5วันที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้ารายงานตัวมีสนช.รายงานตัวแล้ว 197 คน เหลือนายสม จาตุศรีพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา แจ้งมายังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่า จะเข้ารายงานตัววันที่ 7ส.ค. ก่อนเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา เนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้ มีสนช.ทั้งหมด 198 คน จากทั้งหมด 200 คน เนื่องจาก พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ยื่นหนังสือลาออก และนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ยื่นหนังสือไม่ขอรับตำแหน่ง
+++ขณะที่ ช่วงบ่ายวันนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาจะประชุมหารือเตรียมความพร้อมสำหรับรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา สมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ.2557 ในวันพรุ่งนี้ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว และวันที่ 8 ส.ค. สนช.จะประชุมนัดแรก มีวาระเลือกประธานและรองประธาน สนช.
+++ความเคลื่อนไหวตำแหน่งประธานสนช. มีรายงานว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย สนช.และที่ปรึกษาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังเป็นเต็งหนึ่งที่จะเป็นประธาน สนช. เพราะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สนช.เกือบทั้งหมด แม้ก่อนหน้านี้จะมีชื่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สนช. และอดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ขึ้นมาเป็นคู่แข่ง ล่าสุด นายสุรชัยได้กล่าวกับเพื่อนอดีต ส.ว. ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์กลุ่มอดีต ส.ว. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมว่า จะไม่ลงชิงตำแหน่งประธาน สนช.กับนายพรเพชร เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ จึงควรช่วยกันและไม่ควรเอาชนะคะคานกัน โดยนายสุรชัยยินยอมเป็นรองประธาน สนช.คนที่ 1 สำหรับตำแหน่งรองประธานคนที่ 2 ขณะนี้มีชื่อนายพีระศักดิ์ พอจิต สนช. และอดีตว่าที่รองประธานวุฒิสภา มีข่าวว่า กลุ่ม สนช.หญิง ต้องการให้มีผู้หญิงเป็นรองประธาน ด้วย
+++ส่วนการเตรียมพร้อมการคัดสรรสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในวันที่ 9ส.ค. เวลา 10.00 น. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะมีการเชิญทุกฝ่ายที่เห็นต่างมาร่วมงานด้วย จากนั้น วันที่ 14 ส.ค.จะเปิดรับสมัคร สปช.ที่แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรก คือการสรรหาของคณะกรรมการประจำจังหวัด จะคัดเลือกผู้แทนให้ได้ 77 คน จาก 76 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร ส่วนที่สอง จากการส่งรายชื่อนิติบุคคลหน่วยราชการ กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ซึ่งส่วนนี้จะมีการส่งให้คสช.คัดเลือกต่อให้เหลือ 173 คน เพื่อให้ได้ตัวแทนจากทุกสาขาอาชีพ รวมสองส่วนคือ 250 คน จะใช้เวลาไม่เกิน 50 วันในการจัดตั้ง และเริ่มทำงานช่วงเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเสร็จไม่เกินช่วงต้นเดือนก.ย.
+++มีความคืบหน้าจากหลายหน่วยงานที่เป็นนิติบุคคลที่จะเสนอชื่อบุคคลเป็นสปช. เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) วันนี้ มีการประชุมตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะ ต้องห้ามของบุคคล ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเพื่อพิจารณาคัดเลือกให้เป็นสปช.โดยมีรองเลขาธิการกกต.ทุกด้านกิจการ และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
+++ส่วนคดีวันนี้ ศาลอาญา นัดพิพากษาคดี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ ฟ้องหมิ่นนาย ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต บก.กรุงเทพธุรกิจ และคมชัดลึก กรณีลงข่าวกระทรวงการต่างประเทศให้นายอัษฎา ชัยนาม ออกจากประธาน เจบีซี และนายวีรชัย พลาศรัย ออกจากคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา
+++เช้านี้ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะยื่นเอกสารและคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด หลังจากเมื่อวานนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ส่งสำนวนชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีปล่อยปละละเลยไม่ระงับยับยั้งการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีกำหนดเดินทางกลับจากต่างประเทศในวันที่ 10 ส.ค.นี้
+++นางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าเป็นคดีสำคัญนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูง สุด จึงได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนการสอบสวน โดยมีรองอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อพิจารณาหากเห็นว่าพยานหลักฐานในสำนวนเพียงพอแล้ว อัยการก็จะดำเนินการยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ ภายในกรอบระยะเวลา 30 วันตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ถูกกล่าวหา สามารถยื่นร้องขอความเป็นธรรมได้ กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะร้องขอให้สอบพยานเพิ่มเติม จะต้องพิจารณาดูว่าประเด็นต่าง ๆ ในการสอบพยานเพิ่มเติมมีอยู่ในสำนวนการสอบสวนของป.ป.ช.แล้วหรือไม่ หรือเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่ยังไม่มีในสำนวน อัยการจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยยึดสำนวนการสอบสวนของ ป.ป.ช.เป็นสำนวนหลัก แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาในการพิจารณาประเด็นข้อโต้แย้งต่าง ๆ รวมทั้งหาพยาน หลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนการสอบสวนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หากวันที่ 10 ส.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่เดินทางกลับประเทศไทย นางสันทนี กล่าวว่า ไม่กระทบต่อการพิจารณาสำนวนคดีของอัยการ ตามกฎหมายก็ให้อำนาจอัยการสูงสุดในการยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาฯ ได้โดยไม่ต้องมีตัวผู้ต้องหา แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น และคดีในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้นมีอายุความถึง 15 ปี
+++วันนี้ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และนายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตประธานอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา จะรื้อบ้าน 2 หลังที่อยู่ในรั้วบ้านเดียวกันกับบ้านนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยาของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) บริเวณหมู่ 11 ต.หนองน้ำแดง อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีสิ่งก่อสร้างรุกล้ำป่าสงวนปลูกสร้างในที่ลาดเอียงเกิน 45 องศาและยังมีการทำถนนจากบ้านหลังใหญ่ทอดยาวไปถึงบ้านสองหลังด้วย
+++ศาลอาญากรุงเทพใต้ ปล่อยตัวชั่วคราว พล.ต.เจนรณรงค์ เดชวรรณ หรือ เสธ.เจมส์ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม , นายปานทอง ศิริวรรณ์, น.ส.นงนุช สิทธิรัตน์, นางจันทิมา โชติกิตติเกษม และ น.ส.สุรัตน์ พุ่มพวง ผู้ต้องหาที่ 1-5คดีร่วมกันเป็นอั้งยี่ กรรโชกทรัพย์และข้อหาอื่นรวม 4ข้อหากรณีที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการเรียกผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ค้า ย่านพัฒน์พงศ์ พล.ต.เจนรณรงค์และน.ส.สุรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 1,5 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 2 แสน50,000 บาท ส่วน นายปานทอง , น.ส.นงนุช และนางจันทิมา ผู้ต้องหาที่ 2-4 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ตัองหาทั้งห้าไป โดยตีราคาประกันคนละ 2 แสน 50,000 บาท
+++หลังจากน.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) พร้อมด้วย ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และเจ้าหน้าที่สบส. นำทีมตรวจสอบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง สาขาสูตินรีเวช ย่านเพชรบุรีตัดใหม่ เนื่งจากคลินิกแห่งนี้ ทำการอุ้มบุญกรณีแม่ของน้องแกมมี่ คลินิกแห่งนี้ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และแพทย์ที่ทำการอุ้มบุญก็ได้รับการอนุญาตของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ส่งชื่อให้แพทยสภา ตรวจสอบในเรื่องจริยธรรม เมื่อตรวจสอบพบว่า มีความผิดตามประกาศแพทยสภาในเรื่องการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ที่ระบุห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่ใช่ญาติมาทำการอุ้มบุญแทน โดยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่สำคัญกรณีที่หญิงรับอุ้มบุญได้รับค้าจ้างก็ถือว่าผิดชัดเจน และภายใน1-2วันนี้ น่าจะทราบผลการตรวจสอบชื่อหญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญ หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบชื่อของแม่ของน้องแกมมี่ คาดว่าอาจมีการเปลี่ยนชื่อ
+++พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผบก.น.4 พ.ต.อ. วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว ตรวจค้นคอนโดแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น พบเด็กทารกอายุตั้งแต่แรกคลอดจนถึง 8 เดือน หลายคน หน้าตาคล้ายเด็กลูกครึ่ง ผิวพรรณดี พี่เลี้ยเด็ก เปิดเผยว่า นายสำราญ เป็นผู้ว่าจ้าง โดยจะได้ค่าจ้างเดือนละ 1 หมื่นบาท ภายในห้องยังพบสมุดบัญชีการใช้จ่ายในการเลี้ยงเด็กทารก และตารางให้นมเด็กทารกที่ระบุยี่ห้อและปริมาณของนมผมที่จะชงให้เด็กแต่ละคน ล่าสุดผู้ดูแลเด็กยอมรับว่า เด็กทั้งหมดเกิดจากการอุ้มบุญจากพ่อชาวญี่ปุ่นจริง พร้อมยืนยันทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ในระหว่างตรวจสอบหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำเด็กทั้งหมดไปดูแลที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จ.นนทบุรี และนำพี่เลี้ยงและหญิงตั้งครรภ์ ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สน.ลาดพร้าว ก่อนจะส่งตัวไปอยู่กับเด็ก
+++หลังเข้าตรวจค้นมีทนายเจ้าของห้องชาวญี่ปุ่นมาพบเจ้าหน้าที่ ระบุว่า นำน้ำเชื้อจากพ่อชาวญี่ปุ่นเข้ามา เมื่อเด็กคลอดแล้วจะส่งกลับไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบต่อไป
+++สำนักข่าวเอบีซี ออสเตรเลีย รายงานว่า ชายคนที่คาดว่าจะเป็นพ่อที่แท้จริงของน้องแกมมี่ เคยถูกจำคุกในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุไม่ถึง 10 ปีในช่วงที่เขาอายุได้ 20 ปีเศษ จากนั้นในปี 2540 เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดอีก 6 ข้อหาในคดีล่อลวงเด็ก มีรายงานว่า สำนักงานคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้รับแจ้งให้ตรวจสอบกรณีความเหมาะสมในการเป็นผู้ปกครองของชายคนดังกล่าว