ปัญหาขยะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา ติดตามโครงการนำร่องการพัฒนารูปแบบของการดำเนินการจัดการขยะ ที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการการกำจัดขยะ เพื่อเป็นโครงการนำร่องการพัฒนารูปแบบของการดำเนินการจัดการขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน การแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานตามโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย ด้วยเทคโนโลยีผลิตขยะเป็นเชื้อเพลิงและก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าจากการกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีการเผา กำลังการผลิตไฟฟ้า ขนาด 3.8 เมกกะวัตต์ โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุ จำนวน 372 ไร่ 2 งาน 29 ตารางวา ใช้งบประมาณในการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 368 ล้านบาท ก่อสร้างระบบฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักวิชาการและขนย้ายขยะสะสม จำนวน 2 แสนตัน
หลังรับฟังบรรยายสรุปนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า การบริหารจัดการขยะจะต้องมีการจัดทำแผนแม่บทบริหารจัดการขยะทั้งประเทศ ซึ่งวันนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ได้มีการนำร่องรูปแบบการดำเนินการจัดการขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน ต้องขยายการดำเนินการออกไปให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคและทุกพื้นที่เพื่อสร้างแผนบริหารจัดการจัดขยะ ให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ทุกภาคส่วน ภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องร่วมมือกันจึงจะประสบความสำเร็จ รวมถึงภาครัฐต้องสร้างแรงจูงใจให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะ โดยออกมาตรการจูงใจต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ปัจจุบันปัญหาขยะถือเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ ต้องแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับพื้นที่ โดยเฉพาะขยะอุตสาหกรรมต้องมีวิธีการบริหารจัดการที่เหมาะสม รวมถึงปัญหาขยะในครัวเรือนจะต้องแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง คือการคัดแยกขยะ พร้อมกับสร้างจิตสำนึก สร้างการรับรู้ ปลูกฝังตั้งแต่เด็กให้เกิดความเคยชินในการคัดแยกขยะ และนำขยะที่คัดแยกไปรีไซลเคิลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป
CR:รัฐบาลไทย