จากกรณีที่มีตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวและมีหุ้นส่วนอยู่ในร้านเหล้า พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เน้นย้ำให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบสถานบริการ ร้านเหล้า รอบสถานศึกษา และห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทั้งทางตรง และทางอ้อมเด็ดขาด หากพบว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเป็นเจ้าของร้านเอง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการเอาผิดทางวินัย อาญา และปกครอง จึงขอเตือนไม่ให้ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำฐานข้อมูลว่ามีร้านเหล้า สถานบริการ อยู่ใกล้สถานศึกษาจำนวนกี่แห่ง ซึ่งตำรวจจะตรวจสอบใบอนุญาต และตรวจสอบเวลาเปิด-ปิด รวมทั้งตรวจสอบอายุของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ การใช้สารเสพติด ขณะที่การจำหน่ายแอลกอฮอล์ ต้องจำหน่ายตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
ส่วนกรณีมีคลิปตำรวจเรียกรับเงินจากรถยนต์ ในพื้นที่ สน. วิภาวดี พันตำรวจเอกกฤษณะ ระบุว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับว่าหากมีคลิปที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับตำรวจ ก็พร้อมที่จะตรวจสอบทันที
สำหรับกรณีความล่าช้าการคัดกรองบุคคล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่สนามบินดอนเมืองเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พันตำรวจเอกกฤษณะ ระบุว่า จากการตรวจสอบกับตม. พบว่าที่ด่าน ตม. มีผู้โดยสารหนาแน่น เนื่องจากมีเที่ยวบินดีเลย์ถึง 13 เที่ยวบิน ส่งผลให้มีผู้โดยสารสะสมมากกว่า 9,400 คน จึงเพิ่มเจ้าหน้าที่ ตม. เข้าปฏิบัติงาน จาก 15 คน เป็น 20 คน และเมื่อเทียบปริมาณเจ้าหน้าที่กับผู้โดยสารแล้ว ก็ถือว่า ตม. ทำงานรวดเร็ว ขณะที่ตอนนี้ ตม. อยู่ระหว่างสำรวจกำลังเจ้าหน้าที่คัดกรอง ว่าเพียงพอหรือไม่ เพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้
...
ผสข.ปภาดา พูลสุข