ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 49.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ ปิดที่ 52.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานของบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการทางพลังงาน ที่ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เดินเครื่องลดลง 1 แท่นในสัปดาห์นี้ เหลือ 765 แท่น
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบ ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่พบว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มเติมมากกว่าที่คาดหมายไว้ในเดือนกรกฏาคม และปัจจัยนี้เองที่ทำให้หุ้นวอลล์ตรีทปิดในแดนบวก เมื่อวันศุกร์ 4ส.ค.ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 66.71 จุด ปิดที่ 22,092.81 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.67 จุด ปิดที่ 2,476.83 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 11.22 จุด ปิดที่ 6,351.56 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯระบุว่ายอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 209,000 อัตราเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่โพลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ที่จัดทำโดยรอยเตอร์ คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้นราว 183,000 อัตรา การจ้างงานที่แข็งแกร่ง อาจเป็นการเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) แถลงแผนปรับลดยอดงบดุลจำนวน 4.2 ล้านล้านดอลลาร์ในพอร์ตการลงทุนที่ถือครองพันธบัตรและตราสารหนี้ ในเดือนกันยายน และอาจปรับเพิ่มดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ ในเดือนธันวาคม ด้วยภาคธนาคารได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ดัชนีการเงินของเอสแอนด์พี 500 ดีดตัว ร้อยละ 0.72 โดยโกลด์แมนแซค ปิดบวกร้อยละ 2.59 กลายเป็นตัวหนุนสำคัญของดาวโจนส์
ราคาทองคำ เมื่อวันศุกร์ 4ส.ค. ปิดลบแรง จากข้อมูลการจ้างงาน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,264.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ