นายกฯ ให้กำลังใจ ร่วมรับสายโทรศัพท์บริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

บรรยากาศการเปิดรับเงินบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเซินกา บริเวณตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้งาน ประชารัฐร่วมใจ ใต้ร่มพระบารมี ขณะนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เวลา 18.00-19.30 น. มีการถ่ายทอดสดทางช่อง 5 ช่อง9 และเอ็นบีที โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมรับสายรับบริจาคเงินด้วยตัวเอง พร้อมนำคณะรัฐมนตรี หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ศิลปินดารา นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมระดมความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนอย่างรวดเร็วที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนให้หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนร่วมกันบริจาคผ่านทางรายการพิเศษเพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการส่งต่อความปรารถนาดีไปยังประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยต่อไป โดยเงินบริจาคนี้ คณะกรรมการกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จะประสานงานกับจังหวัดต่างๆ ให้เสนอขอรับการสนับสนุน แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนตามหลักเกณฑ์ ทั้งเรื่องค่าวัสดุการก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้านเรือนเสียหาย ค่าเครื่องใช้อุปโภคบริโภค รวมทั้งค่าจัดการศพในกรณีมีผู้เสียชีวิต โดยหวังว่าพลังน้ำใจ ความร่วมมือของประชาชนคนไทยและความช่วยเหลือของหน่วยงานทุกภาคส่วนจะเป็นกำลังใจสำคัญให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ สามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้และกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกคน

ขณะที่เมื่อช่วงเช้านี้นายกรัฐมนตรีได้มอบเงินจากบัญชีส่วนตัวเพื่อร่วมบริจาคผ่านทาง นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นจำนวน 100,000 บาท

สำหรับประชาชนที่ต้องการ ร่วมบริจาคผ่านทางรายการพิเศษประชารัฐร่วมใจใต้ร่มพระบารมี สามารถบริจาคได้ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงเวลา 19.30 น.ซึ่งสามารถโทรศัพท์มาร่วมบริจาคได้ที่โทรศัพท์พิเศษ 02-356 0303 ซึ่งมีระบบอัตโนมัติทั้งสิ้น 30 คู่สาย หรือบริจาคผ่านกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสามารถโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทย จำกัด สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 ส่วนประชาชนที่ต้องการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ล่วงหน้า สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมายเลข 02-283- 4193 , 02-283- 4180 และ 02-283- 4931 ทั้งนี้ผู้บริจาคสามารถนำหลักฐานในการบริจาคไปใช้แสดงการขอลดหย่อนภาษีได้ถึง 1.5 เท่า ไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2560

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม