รองนายกฯสั่งสอบจนท.ให้ความช่วยเหลือธัมมชโยหนีคดี/พธม.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลฎีกาฯ/ญี่ปุ่นรับมือ ไต้ฝุ่น โนรู

ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือพา"พระธัมมชโย" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หลบหนีไปประเทศไปสหรัฐอเมริกา ว่า เรื่องนี้ต้องมีการสอบสวน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและพาผู้กระทำความผิดหลบหนีจริง ก็ถือว่ามีความผิด ส่วนการประสานกับต่างประเทศเพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ขณะนี้ข้อมูลยังไม่ชัดเจน ต้องรอผลการสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจริงหรือไม่ และหนีไปสหรัฐจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังเป็นเพียงข่าวที่ออกมาอยู่ ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน

+++ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมทนายความส่วนตัว ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองกำกับ 3 หลังได้รับการประสานงานเชิญตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์ให้มารายงานตัว โดย นายพิชัย กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ว่า วันนี้ตนเดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจและไม่คิดหลบหนี สำหรับเรื่องการที่ถูกเรียกมาในวันนี้นั้น สาเหตุน่าจะมาจากการที่ตนมีการแสดงความคิดเห็นเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. ในหนังสือพิมพ์บางฉบับและการโพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กในเรื่องของเศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เป็นการแสดงความคิดเห็นทางด้านเศรษฐกิจด้วยความเจตนาบริสุทธิ์ ซึ่งสามารถทำได้ทั่วโลก ยืนยันว่าตนไม่ได้มีการโพสต์ชักชวนหรือปลุกระดมประชาชนแต่อย่างใด การที่ตำรวจเรียกมาวันนี้คิดว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ตนไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เบื้องต้น ทราบเพียงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา "การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และมาตรา 116 เท่านั้น.

+++นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตศิลา อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรฯ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรฯ ออกแถลงการณ์หลังการประชุมอดีตแกนนำ และผู้เสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 โดยนายปานเทพ ได้อ่านแถลงการณ์พันธมิตรฯ ฉบับที่ 1/2560 ว่า ที่ปีระชุม มีมติมอบหมายให้นายวีระ สมความคิด และคณะ ในฐานะผู้ยื่นคำร้องเดิมต่อ ป.ป.ช. ได้เดินทางร่วมกับผู้เสียหาย และพี่น้องประชาชนผู้ห่วงใยต่อการดำเนินคดีนี้ ไปยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ในวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2560 เวลา 11.00 น.  โดยอดีตแกนนำพันธมิตรฯ ผู้เสียหาย และผู้เกี่ยวข้อง เคารพคำพิพากษาของศาลฯ แต่ไม่เห็นด้วย และเห็นว่าคำพิพากษามีความคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงหลายประการ ควรต้องมีการยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา รวมทั้งเห็นว่าคำพิพากษาดังกล่าวยังขัดแย้งต่อคำพิพากษาศาลปกครองกลาง มติ ป.ป.ช. คณะกรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่มีคำวินจฉัยแล้วว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการชุมนุมสงบ ปราศจากอาวุธ ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การสลายการชุมนุม ไม่เป็นไปตามหลักสากล มีการใช้อาวุธ ไม่ดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ไม่เป็นไปตามหลักสากล มีการใช้ความรุนแรงตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แม้การประชุมรัฐสภาเสร็จสิ้นแล้ว สมาชิกออกจากรัฐสภาแล้ว ซึ่งทั้งสามองค์กรดังกล่าวได้ชี้ว่าจำเลยมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ จงใจกระทำต่อผู้ชุมนุมด้วยการละเมิดต่อผู้ชุมนุม  เห็นควรตั้งคณะทำงานติดตามการดำเนินคดีของ ป.ป.ช. สภาทนายความ และทนายความ เพื่อให้การดำเนินการยื่นอุทธรณ์ได้นำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ถูกต้องสมบูรณ โดยมอบหมายให้นายวีระ สมความคิด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายประพันธ์ คูณมี และนายสุริยะใส กตะศิลา เป็นคณะทำงานและหากการดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมแก่พี่น้องประชาชน ผู้เสียหายและผู้ได้รับผลกระทบ พันธมิตรฯ จะทำทุกช่องทางกฎหมาย ทุกวิถีทาง เพื่อทวงคืนความเป็นธรรมให้พี่น้องประชาชนถึงที่สุด

+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร 2-3 คน ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และผลสอบออกมาแล้วพบว่ามีมูลว่าเจ้าหน้าที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจริง หากคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรมีความผิดจริง ก็ต้องพิจารณาว่าจะให้ออกหรือไล่ออกจากราชการ และต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการรับผิดทางแพ่งเรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการเก็บภาษีไม่ได้จากผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป   การสอบข้อเท็จจริงกรณีการละเว้นการเก็บภาษีหุ้นดังกล่าว มีนายยุทธนา หยิมการุณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธานตรวจสอบ โดยผลสอบจะแยกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกเป็นการสอบกรณีที่กรมสรรพากรไม่ยื่นอุทธรณ์ศาลภาษีให้นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ให้เสียภาษีจากการซื้อขายหุ้น โดยในส่วนนี้ผลสอบระบุชัดเจนว่าผู้บริหารกรมสรรพากรภาค 3 มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรง รวมถึงมีระเบียบของกรมสรรพากรว่าต้องทำการยื่นอุทธรณ์ศาลในทุกกรณี  ผลสอบยังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า ผู้บริหารกรมสรรพากรในขณะนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการไม่ยื่นอุทธรณ์เรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีการพิจารณาตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของปลัดกระทรวงการคลัง สำหรับการสอบในส่วนที่สอง เป็นกรณีที่กรมสรรพากรไม่ทำการประเมินเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นจากอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร โดยผลสอบชี้ว่า ผู้บริหารกรมสรรพากรมีความพยายามที่จะไม่ประเมินภาษี ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่

+++พื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงเขตที่มีฝนตกหนักเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมรับมือกับฝนที่อาจตกลงมามากขึ้นจากไต้ฝุ่นโนรูหนึ่งในพายุกำลังแรงที่สุดของโลกในปีนี้ ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางญี่ปุ่น  สถานีอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นรายงานว่า เกาะอามามิซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ทางเกาะคิวชู และอยู่ห่างไปราว 1,350 กิโลเมตรจากกรุงโตเกียว จะได้รับผลกระทบจากลมกระโชกแรงและฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันศุกร์นี้ โดยอาจมีปริมาณฝนตกหนา 31 นิ้วในอีก 48 ชั่วโมง คาดว่าไต้ฝุ่นโนรูจะมุ่งหน้าไปทางเหนือและทำให้ฝนตกที่เกาะคิวชู  แต่พื้นที่ทางเหนือของเกาะซึ่งเดือนที่แล้วเผชิญกับฝนตกหนักและน้ำท่วม มีผู้เสียชีวิต 36 คน และบาดเจ็บ 4 คนมีแนวโน้มว่าจะรอดจากพายุกระหน่ำรุนแรงที่สุดไปได้ ขณะที่มีรายงานว่าพายุเริ่มอ่อนกำลังลง แต่ยังคงมีอันตรายจากน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง