การสานต่อพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ร่วมกับประชาชนจิตอาสาและสื่อพันธมิตร สานต่อพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการดูแลรักษาป่าและน้ำ ด้านความพอเพียง และด้านการเสียสละและการให้ทาน โดยจะนำคณะจิตอาสาเดินทางไปศึกษาเรียนรู้รวม 4 เส้นทาง ได้แก่ พื้นที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก พื้นที่ชุมชนบ้านห้วยหาด จังหวัดน่าน พื้นที่ป่าชายเลนภาคตะวันออก จังหวัดฉะเชิงเทราและจันทบุรี และพื้นที่ป่าชายเลน จังหวัดกระบี่
สำหรับเส้นทางที่ 1 “อาสาทำดี ตามรอยเขื่อนพระราชา” จะเดินทางไปที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม 2560 จิตอาสาจะได้ตามรอยสถานที่ที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 เคยเสด็จฯ อาทิ อาคารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเป็นสถานที่ทรงงานและประทับแรม เมื่อครั้งเสด็จฯ มาทรงงานเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมร่วมพิธีสืบชะตา “บวชป่าต้นน้ำ” สร้างฝายหินชะลอน้ำตามแนวพระราชดำริ และร่วมบริจาค 89 บาท เข้าโครงการ “89 บาท เพื่อผู้พิทักษ์ป่า” สมทบทุนซื้ออุปกรณ์ป้องกันไฟป่า รวมถึงร่วมปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 89,000 ตัว
เส้นทางที่ 2 “ฮ่วมใจพัฒนา ฮักน่าน ฮักป่า ต้นน้ำยั่งยืน” ณ ชุมชนบ้านห้วยหาด จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม 2560 จะมีการค้นหา “คนดีของพ่อ” ผู้มีจิตอาสาในงานพัฒนาชุมชนร่วมเดินทางนำความรู้ไปฝากชุมชนคนน่าน ในหัวข้อ “เรียนรู้เพิ่มมูลค่า พัฒนาชุมชน” นำโดย คุณท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ในชุมชนอย่างยั่งยืน และร่วมปลูกป่าจากกล้าไม้ในสกุลวงศ์ไม้ยางที่เพาะพันธุ์ด้วยดินที่ผสมเชื้อเห็ด เมื่อต้นไม้เติบโตจะเกิดเห็ดบริเวณโคนต้นไม้ เช่น เห็ดเผาะ นอกจากนี้ยังจะได้เรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย
เส้นทางที่ 3 “เส้นทางดูแลป่าชายเลนภาคตะวันออก” เริ่มตั้งแต่บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทราถึงจังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2560 โดยมัคคุเทศก์เยาวชนจะพาชมโรงไฟฟ้าบางปะกง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว เรียนรู้โครงการเลี้ยงปลาในระบบน้ำทิ้ง และเยี่ยมชมเกาะนก แหล่งอุดมสมบูรณ์กลางปากแม่น้ำบางปะกง รวมถึงเรียนรู้วิธีฟื้นฟูป่าชายเลนที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมร่วมปลูกป่าชายเลน ณ ลุ่มน้ำเวฬุ จังหวัดจันทบุรี ตลอดจนพบกับวิถีชีวิตริมน้ำจันทบูรที่อยู่อาศัยทำมาหากินแบบเอื้อประโยชน์กับป่าชายเลนอย่างลงตัว
ด้านเส้นทางที่ 4 “ปั่น-ปั้น-ปัน-ปลูก” ซึ่งเป็นเส้นทางสุดท้ายที่จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2560 จะเชิญจิตอาสาที่รักการปั่นจักรยาน เยี่ยมชมและรับความรู้ด้านการดำเนินงานผลิตไฟฟ้าและดูแลสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้ากระบี่ ตลอดจนปั้นความรู้ที่จุดประกายคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ให้ชุมชน เช่น แนวทางการอนุรักษ์หญ้าทะเล เรียนรู้วงจรชีวิตหอยชักตีนอาหารทะเลขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่ พร้อมกันนี้คณะจะได้ร่วมมอบอุปกรณ์กีฬาและเครื่องใช้ที่จำเป็นแก่เยาวชนในพื้นที่ รวมถึงร่วมปลูกป่าชายเลนและเก็บขยะบริเวณชายหาดอีกด้วย
ทั้งนี้ กฟผ. ขอเชิญชวนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมและติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/egatreforest